บทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง “การปฏิบัติต่อสภาวะจิตของผู้ใกล้ตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท” มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาจิตกับความตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาวิธีการปฏิบัติต่อผู้ใกล้ตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๓) เพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติต่อผู้ใกล้ตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท ผลการวิจัยพบว่า
๑. จิตกับความตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท ความหมายและสภาพทั่วไปของจิต “จิต” หมายถึง ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ สภาพที่นึกคิด ความคิด ใจ แตกต่างโดยหน้าที่ สัมพันธ์กับร่างกายแยกจากกันไม่ได้ มีหลายประเภท แบ่งเป็น ๘๙ ดวง หรือ ๑๒๑ ดวง สภาวลักษณะของจิตมีเพียง ๑ เป็นไปใน ๓ ลักษณะเป็นนามธรรมที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จำแนกได้ ๔ ภูมิ สภาวะจิตของผู้ใกล้ตายย่อมเกี่ยวข้องกับเหตุที่ทำให้ความตายปรากฏ ๔ อย่าง จิตดวงสุดท้าย เรียกว่า จุติจิต เป็นจิตสุดท้ายแห่งปัจจุบันภพ มีกรรมอารมณ์ กรรมนิมิตอารมณ์ และคตินิมิตอารมณ์เป็นอารมณ์ ปฏิสนธิจิต คือ หน้าที่ของจิตที่เกิดขึ้นต่อไปในภพใหม่ ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นสืบ ๆ กันต่อไป หมุนเวียน ตั้งชาติ ตั้งภพ ตามลำดับหน้าที่ของปุถุชนและพระเสขบุคคลทั้งหลายที่ยังต้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่ใน ๓๑ ภูมิ
๒. วิธีการปฏิบัติต่อผู้ใกล้ตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท “ผู้ใกล้ตาย” หมายถึง ผู้ป่วยใกล้ตาย หรือคนชราใกล้ตายไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ขณะที่จิตดวงสุดท้ายที่จะเคลื่อนออกจากภพนี้เกิดขึ้น มีนิมิตอารมณ์ ๓ ประการอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏ ในเวลา ๑-๒ นาที หรือ ๑-๒ ชั่วโมง เรียกว่า ผู้ใกล้จะตาย และภายในไม่ถึง ๑๐ วินาที หรือ ไม่ถึง ๒๐ วินาที เรียกว่า ผู้ใกล้จวนตาย วิธีการปฏิบัติ คือ การปฏิบัติทางกายและทางใจต่อผู้ใกล้ตาย
๓. แนวทางการปฏิบัติต่อผู้ใกล้ตายในพระพุทธศาสนาเถรวาทมีหลายวิธีแต่ละวิธีมุ่งหมายชักนำจิตให้น้อมเป็นกุศล เสนอไว้เป็นแนวทางอยู่ ๖ วิธี ได้แก่ ๑) วิธีการให้ความรักและความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตาย ๒) วิธีการช่วยให้จิตใจของผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตายจดจ่อกับสิ่งดีงามสิ่งที่เป็นกุศล ๓) วิธีการช่วยให้ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตายยอมรับความตายที่จะมาถึง ๔) วิธีการช่วยปลดเปลื้องสิ่งที่ค้างคาใจของผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตาย ๕) วิธีการช่วยให้ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตายปล่อยวางในสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ยึดมั่นถือมั่น และ ๖) วิธีการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสงบ
ดาวน์โหลด
|