บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ ๒) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางพัฒนาประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้การวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบจำนวน ๗ ตำบล จำนวน ๓๙๗ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequencies) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการทดสอบสมมติฐานเพื่อหาความสัมพันธ์ปัจจัยส่วนบุคคลกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้การทดสอบไคสแควร์ (Chi-Square test) และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน ๑๒ ท่าน และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=3.58) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านงานป้องกันปราบปราม (=3.60) งานสอบสวน (=3.59) งานจราจร(=3.58) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านงานสืบสวน (=3.55)
๒) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ คือ ประชาชนที่มี เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ ไม่มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓) ปัญหา อุปสรรคของประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า งานป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อในการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น มีปัญหาด้านสาธารณูปโภค อย่างเช่น น้ำมันเชื่อเพลิงมีจำนวนจำกัดทำให้งานออกมาไม่เต็มที่ อุปกรณ์ยานพาหนะไม่เพียงพอ งานสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ไม่แสวงหาความร่วมมือกับประชาชนอย่างจริงจัง ไม่ได้รับความร่วมมือจากพยานและผู้ให้ข้อมูลไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ งานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจขาดความรวดเร็วในด้านการหาข้อมูลเพิ่มเติม การดำเนินการงานสอบสวน ยังไม่ทันสมัย ไม่เป็นสากล งานจราจร การบังคับใช้กฎหมายยังปล่อยปะละเลยไม่จริงจัง ปัญหาด้านจราจรส่วนใหญ่เกิดจากผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่เคารพกฎจราจร
แนวทางพัฒนาประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า งานป้องกันปราบปราม ควรจัดสรรอัตรากำลังเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามอย่างแท้จริง และจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ให้เพียงพอต่อความต้องการ งานสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจควรแสวงหาข้อมูลจากประชาชนให้มากขึ้น ตลอดจนให้ความมั่นใจว่าพยานและผู้ให้ข้อมูลจะได้รับความคุ้มครองและปลอดภัย และควรสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนศรัทธาในตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจควรนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการทำงาน และพัฒนางานให้ทันสมัยและเป็นสากลให้มากที่สุด งานจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมีประสิทธิภาพ และต้องปลูกจิตสำนึกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเคารพกฎจราจร
ดาวน์โหลด
|