บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค แนวทางพัฒนาปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้การวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์จำนวน ๑๖๖ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequencies) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และทดสอบสมมติฐาน เพื่อเปรียบเทียบ ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล สถิติที่ใช้คือ การทดสอบค่าที (t-test) ในกรณีตัวแปรต้นสองกลุ่ม และการทดสอบค่าเอฟ (F-Test) ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ในกรณีตัวแปรต้นตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างเป็นสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD.)และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน ๙ ท่าน และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ระดับปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (=๓.๔๐) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความรับผิดชอบ (= ๓.๖๓) ด้านนโยบายและการบริหารงาน (=3.62) ด้านลักษณะของงานที่ปฏิบัติ (= ๓.๕๕) ด้านการบังคับบัญชา(= ๓.๔๙) ด้านความสำเร็จของงาน (= ๓.๔๓) ด้านเงินเดือนและผลประโยชน์เกื้อกูล (= ๓.๓๑) ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ (= ๓.๒๕) ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน (= ๓.๒๔) ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน (= ๓.๒๒) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน (= ๓.๒๑)
๒) ผลการเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า พนักงานที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน และเงินเดือน ที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อปัจจัยปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓) ปัญหา อุปสรรค ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ คือ ผู้บังคับบัญชาไม่ค่อยเป็นผู้นำยุคใหม่ไม่สามารถปรับการบริหารให้เข้ากับสถานการณ์ได้ อีกทั้งไม่ค่อยรับข้อเสนอแนะต่างและความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานไม่ให้ความสนใจในการดูแลเอาใจใส่ ช่วยแก้ไขปัญหา ตลอดจนเจ้าหน้าที่บางท่านไม่ค่อยมีโอกาสได้ร่วมประชุม ฝึกอบรม ดูงาน และไม่ค่อยมีอำนาจหน้าที่ในการสั่งการพิจารณาสั่งการตามหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ตามกฎหมายกำหนดไว้และบุคลากรเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของมีจำนวนน้อยไม่เหมาะสมกับปริมาณงาน
แนวทางพัฒนาปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ คือ ผู้บังคับบัญชาควรนำกลยุคสมัยใหม่มาปรับใช้ในการบริหารให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ควรส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ ได้ร่วมประชุม ฝึกอบรม ดูงาน เพื่อเพิ่มพูนและพัฒนาความรู้ความสามารถอยู่เสมอ ควรให้อำนาจหน้าที่ในงานที่ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการสั่งการพิจารณาสั่งการอย่างเต็มที่ตามกฎหมายกำหนดไว้และ ควรให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะต่างและความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนควรให้ความสนใจในการดูแลเอาใจใส่ ช่วยแก้ไขปัญหาเมื่อมีปัญหาในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ทางเทศบาลควรเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงานไม่เหมาะสมกับปริมาณงานและควรปรับเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับปริมาณงานและความรับผิดชอบ
ดาวน์โหลด
|