บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์คือ ๑) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อภาวะผู้นำการบริหารการจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอแม่วงก์จังหวัดนครสวรรค์โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและ ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในภาวะผู้นำการบริหารการจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี(Mixed Method Research)โดยการวิจัยเชิงปริมาณกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน ๑๗๕ รูป จากพระสงฆ์จำนวน ๓๒๐รูปการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่(frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที่ (t–test) และการทดสอบค่าที่ (F–test) ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference LSD) และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก(In-depth Interview)กับผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informant) และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า
๑) พระสงฆ์มีความคิดเห็นภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๔.๒๑) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน คือ ด้านมิติมุ่งคน ด้านมิติมุ่งงาน และ ด้านมิติมุ่งประสิทธิผล พบว่า ภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในระดับมากทุกด้าน
๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์มีความคิดเห็นภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล คือ อายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสายสามัญ วุฒิการศึกษาทางธรรม และวุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม พบว่า พระสงฆ์ที่มี พรรษา ต่างกันมีความคิดเห็นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย และพระสงฆ์ที่มีวุฒิการศึกษาเปรียญธรรม ต่างกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย สำหรับสถานภาพส่วนบุคคลที่เหลือมีความเห็นต่อภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ไม่แตกต่างกันจึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
๓) ปัญหาและอุปสรรคต่อภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ความประพฤติของพระภิกษุสามเณรบ้างรูปไม่เรียบร้อยไม่ค่อยอยู่ในกฎระเบียบอยากให้มีทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน และ ขาดสถานที่ในการรับเยาวชนเข้ามาอบรม
ข้อเสนอแนะต่อภาวะผู้นำการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ควรจัดประชุมพระภิกษุสามเณรเพื่อชี้แจงกฎระเบียบตามมติมหาเถรสมาคมเพื่ออบรมสั่งสอนด้านวัตรปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยและควรจัดให้มีการเรียนการสอนนักธรรมและบาลีอย่างทั่วถึงพร้อมจัดหาทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุสามเณรที่เรียนนักธรรมและบาลี
ดาวน์โหลด
|