งานวิจัยนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษารูปแบบและวิธีการเทศนาของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน เพราะเล็งเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญของพระสงฆ์ ซึ่งถือได้ว่าการเทศน์เป็นหน้าที่หลักของ พระสงฆ์ที่จะช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา อันหมายถึง หลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่ประชาชน อีกทั้งยังเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาได้ในอีกทางหนึ่ง ผลการศึกษาวิจัยเรื่องรูปแบบวิธีการเทศนาของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน พบว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะ นำไปสู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการได้นำหลักพุทธธรรมไปถ่ายทอดได้ อย่างเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของประชาชน การเผยแผ่หลักธรรมคำสอนไปสู่ประชาชนในสังคม ปัจจุบันถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสภาพของสังคมในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก ดังนั้นการเทศน์จำเป็นที่จะต้องมีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย กล่าวคือ การปรับกลยุทธ์การ เทศน์ให้เข้ากับสังคมในยุคปัจจุบัน และที่สำคัญต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะนั้นหมายถึง การสร้างศรัทธา และนำไปสู่การน้อมนำเอาหลักธรรมะคำสอนไปเป็นแนวทางในการประพฤติ ปฏิบัติ พร้อมทั้งเป็นแนวทางสำหรับการแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้วิจัยมี ความสนใจเป็นอย่างยิ่งในการศึกษาค้นคว้า โดยทำการวิจัยเชิงเอกสาร และเชิงสำรวจ แบ่งการศึกษาออกเป็น ๕ บท ซึ่งในแต่ละบทมีรายละเอียด ดังนี้ บทที่ ๑ บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย คำจำกัดความของศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย ทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีการดำเนินการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ บทที่ ๒ แนวคิดทฤษฎีของรูปแบบและวิธีการเทศนาตามหลักพุทธศาสนาและหลักการ สื่อสาร โดยศึกษาถึงวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า รวมทั้งบทบาทและวิธีการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาของพระสาวก ส่วนการสื่อสารตามหลักนิเทศศาสตร์ ก็กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีการ สื่อสารตามหลักนิเทศศาสตร์ อาทิเช่น ทฤษฎีสารและการสร้างสารของอริสโตเติล ทฤษฎีการสื่อสารพระสงฆ์ไทยที่ควรนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นรูปแบบและวิธีการต่าง ๆ ที่จะ นำเสนอ เช่น นำเสนอโดยการยกอุทาหรณ์และการเล่านิทานประกอบ โดยวิธีการเปรียบเทียบ อุปมา อุปมัย โดยวิธีการยกพุทธศาสนสุภาษิต คำคม คำขัน คำกลอน โดยวิธีการพูดเชื่อมโยง สถานการณ์และยกเหตุการณ์ประกอบ โดยวิธีการยกบุคคลมาเป็นตัวอย่างประกอบ และโดยวิธีการ แสดงด้วยเรื่องที่ทำให้เกิดอารมณ์ขัน เป็นต้น บทที่ ๓ ระเบียบวิธีวิจัย มีขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า วิธีการดำเนินการวิจัย ประชากร ที่ศึกษา การเลือกกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บ รวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ และวิจัยภาคสนาม และนำ ข้อมูลมาวิเคราะห์ทางสถิติ โดยใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ซึ่งใช้โปรแกรม SPSS ช่วยในการประมวลผลทุกขั้นตอน บทที่ ๔ ผลการวิจัย ได้แก่ ผลของการสำรวจที่ได้มาจากการลงภาคสนามโดยใช้ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ แบ่งออกเป็นผลของข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม ผลของความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเทศน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ยังรวมถึงผลแนวความคิดของพระสงฆ์ผู้ มีความสามารถทางด้านการเทศน์ การสอน และการเผยแผ่ธรรมะ บทที่ ๕ สรุปและข้อเสนอแนะ จากการศึกษาวิจัยพบว่ารูปแบบและวิธีการเทศนาของ พระสงฆ์ไทย เป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการได้ นำหลักพุทธธรรมไปถ่ายทอดได้อย่างเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของประชาชน ในการศึกษาวิจัย เรื่องรูปแบและวิธีการเทศนาของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน มีปัจจัยหลายประการที่มีความสำคัญ อันจะนำไปสู่หลักแห่งการเผยแผ่พุทธธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบและวิธีการเผยแผ่ที่มีความ หลากหลาย ทันสมัย เข้ากับยุค เข้ากับเหตุการณ์ อันเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ผู้เผยแผ่ประสบ ความสำเร็จในการเผยแผ่พุทธธรรม ทั้งนี้ยังมีส่วนอื่นที่สำคัญ ที่มีผลต่อความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของนักเทศน์ หรือผู้เผยแผ่ นอกเหนือไปจากที่ได้ศึกษามาแล้ว อาทิเช่น ควรเปรียบเทียบรูปแบบและวิธีการ สื่อสารการเทศนาในอดีตกับปัจจุบัน ควรมีการออกแบบสำรวจเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในยุคปัจจุบันโดยผ่านสื่อมวลชน ควรศึกษาเรื่องอิทธิพลของสื่อที่มีผล ต่อการเผยแผ่ในปัจจุบัน และควรศึกษาเรื่องนักเผยแผ่กับการเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน
Download : 254858.pdf