หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาตูม ตนฺตปณฺฑิโต
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๕ ครั้ง
การศึกษาวิเคราะห์เรื่องสัตว์นรกที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาตูม ตนฺตปณฺฑิโต ข้อมูลวันที่ : ๐๘/๐๒/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหากฤษณะ ตรุโณ
  รังสี สุทนต์
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

             ในการศึกษาวิจัยเรื่องสัตว์นรกที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทครั้งนี้  ผู้วิจัยได้กำหนดวัตถุประสงค์ ๓  ข้อ คือ  ๑) เพื่อศึกษาเรื่องนรกที่ปรากฏในคัมภีร์ พระพุทธศาสนาเถรวาท  ๒) เพื่อศึกษาภพภูมิของสัตว์นรกในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท  ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์เรื่องสัตว์นรกที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท

             จากการวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้พบว่า นรกภูมิ เป็นสถานที่ที่ไร้ซึ่งความเจริญ ไม่มีความแช่มชื่นเบิกบานและความสุขอย่างใดเลย  สัตว์ที่เกิดในภพภูมินี้ได้รับผลของบาปกรรมที่ตนเคยกระทำไว้ในบางก่อนแล้ว ก็มาได้รับทนทุกข์ทรมานมาก และไม่มีโอกาสที่จะทำให้กุศลจิตเกิดขึ้น สัตว์
อันเกิดในนรกภูมินั้นเกิดด้วยโอปปาติกโยนิ (เกิดโตทันที) และเป็นภพภูมิที่ได้รับแต่ความทุกข์ตลอดเวลาไม่มีใครสามารถที่จะช่วยให้สัตว์เหล่านั้นพ้นจากความทุกข์ไปได้

 

             บรรดานรกทั้งหลายนั้น  มี ๔ ประเภท ใหญ่ ๆ คือ  ๑. มหานรก ๘ ขุม  ๒. อุสสุทนรก ๑๒๘ ขุม ๓. ยมโลกิกะนรก ๓๒๐ ขุม ๔. โลกันตะนรก ๑ ขุม รวมทั้งหมดมีนรก ๔๕๗ ขุม

             สัตว์นรกที่เกิดในนรกภูมิเหล่านี้ ต้องเสวยทุกข์โทษอยู่สิ้นกาลช้านาน แต่จะนานเท่าใด
ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับบาปกรรมที่กระทำไว้ ถ้าทำบาปกรรมไว้มากก็ต้องตกนรกอยู่นาน และต้องตกนรกหลายขุม เช่น ได้ทำบาปกรรมมีการฆ่าบิดามารดา เป็นต้น ต้องเสวยวิบากกรรมในอเวจีมหานรกขุมที่ ๘ ตามอายุไข ๑ อันตรกัลป์ และต่อที่ “อุทสุทนรก” ที่ล้อมรอบอเวจีมหานรกนี้อีก ๑๖ ขุม และต่อที่ “ยมโลกนรก” ที่ล้อมรอบอเวจีมหานรกนี้อีก ๔๐ ขุม และต่อที่มหานรกขุมที่ ๗-๖-๕-๔-๓-๒-๑ และนรกบริวารของมหานรกแต่ละขุมอีกตามลำดับ เมื่อเศษแห่งบาปกรรมยังไม่สิ้นต้องเสวยวิบากกรรมใน “เปตติวิสยภูมิ” ต่ออีก เมื่อสิ้นอายุไขจากเปรตแล้ว ต้องเสวยวิบากกรรมใน “ติรัจฉานภูมิ” ต่ออีก เมื่อสิ้นอายุไขจากติรัจฉานแล้ว ต้องเสวยวิบากกรรมใน “มนุสสภูมิ” ประเภทขาดตกบกพร่อง เช่น บ้า ใบ้ ตาบอด หูหนวก เป็นต้น หากเศษกรรมสิ้นแล้วจึงเกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่ประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้นต่อไป จนกว่าจะพบพระนิพพานในที่สุด

             การศึกษาวิเคราะห์เรื่องสัตว์นรกที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ผู้วิจัยได้พบว่าบุคคลที่ไปเกิดในขุมนรกเหล่านั้นได้รับแต่ความทุกข์ทรมานมากหมายเพราะถูกลงโทษจาก
นายนิรยบาลด้วยอาศัยอกุสลกรรมที่ตนเคยกระทำไว้ในชาติบางก่อน และขุมนรกเหล่านั้นมีมากหมายและขวางขว้าง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะขุมนรกเหล้านี้ถูกจำแนกไปตามกรรมของสัตว์นั้นเอง ฉะนั้นบุคคลที่ชอบกระทำแต่ความชั่วต่างๆในปัจจุบันชาตินี้เมื่อได้รับโทษทางกฎหมายบ้านเมืองถูกเจ้าหน้าที่ลงโทษทรมานต่างๆนานาแล้วแต่ยังไม่ตายนั้นเปรียบเสมือนการตกนรกทั้งเป็นนั้นยังไม่พอ เมื่อเวลาตายไปแล้วก็ต้องไปรับโทษในตกนรกมกไหม้ถูกทรมานกว่าโลกมนุษย์หลายเท่านานเป็นกัปป์ๆ ไม่สามารถที่กำหนดอายุของสัตว์เหล่านั้นได้มีแต่กรรมของเขาเท่านั้นที่จะกำหนดอายุของสัตว์เหล่านั้นได้ ฉะนั้นเราทุกคนควรกลัวต่อการกระทำความชั่วจึงแม้มันเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม และเราควร   พากันหันมารักษาศีล ภาวนา ประพฤติปฏิบัติต่อไป จนกว่าจะพบพระนิพพานในที่สุด

 ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕