บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาหลักหิริโอตตัปปะและหลักธรรมที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บภาษีอากรในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษาปัญหาในการจัดเก็บภาษีอากร ของสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๒๘ และ ๓) เพื่อประยุกต์ใช้หลักหิริโอตตัปปะและหลักธรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีอากรของสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๒๘ ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการวิจัยเชิงคุณภาพภาคเอกสารและการวิจัยคุณภาพภาคสนาม
ผลการวิจัยพบว่า หิริโอตตัปปะและหลักธรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นหลักธรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้มนุษย์ละเว้นจากการประพฤติชั่วกลัวต่อการทำบาป หมายถึง การไม่ประพฤติผิดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับอื่นๆ ตลอดจนถึงศีลธรรมอันดี หลักธรรมข้อนี้ ผู้วิจัยเห็นว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงานไปจนถึงผู้บริหารองค์กร ควรนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่การงาน หรือนำไปใช้แก้ปัญหาในการจัดเก็บภาษีอากรได้เป็นอย่างดี
ปัญหาในการจัดเก็บภาษีอากรที่เกิดขึ้นจากบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับภาษีอากรทั้งหมด คือ ตัวผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรขาดความรู้ในเรื่องของภาษี หรือรู้เรื่องภาษีอากรดีแต่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีจำนวนน้อยกว่าปริมาณงานที่รับผิดชอบ กฎหมายล้าสมัย มีบทลงโทษน้อยไม่ทำให้ผู้ที่ละเมิดกฎหมายเกิดความเกรงกลัวต่อการถูกลงโทษ
ปัญหาการจัดเก็บภาษีอากร ควรจะนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ควบคู่ไปกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ไปพร้อมกันเช่น หิริโอตตัปปะอิทธิบาท ๔ พรหมวิหาร ๔ สังคหวัตถุ ๔ เป็นต้น และเจ้าหน้าที่สรรพากรต้องพัฒนาการจัดเก็บภาษีอากรอย่างมีระบบเป็นมืออาชีพ เพื่อให้รู้เขา รู้เรา จนสมารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเกิดประสิทธิผล เช่นการป้องกันการทุจริต คอร์รัปชั่น การรับสินบน เป็นต้นถ้าหากบุคลลากรทุกคนพัฒนาตนดังที่กล่าวมาแล้ว ปัญหาในการจัดเก็บภาษีอากรย่อมหมดไป
ดาวน์โหลด
|