บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เล่มนี้มุ่งศึกษาเปรียบเทียบเทคนิคด้านการปฏิบัติกรรมฐานระหว่างพุทธศาสนาในไทยและจีน มีจุดประสงค์ ๓ ประการคือ ๑) ศึกษาการปฏิบัติกรรมฐานตามคัมภีร์บาลีและเทคนิคกรรมฐานในประเทศไทย ๒) ศึกษาการปฏิบัติกรรมฐานตามคัมภีร์พระไตรปิฎกจีนและเทคนิคกรรมฐานในประเทศจีน ๓) ศึกษาความเหมือนและความต่างเทคนิคกรรมฐานทางพุทธศาสนาระหว่างประเทศไทยและจีน การบูรณาการและการแลกเปลี่ยนของทั้งสองประเทศ
บทที่ ๑ แนะนำประวัติความเป็นมาของการวิจัยและจุดประสงค์การวิจัย โดยศึกษางานวิชาการต่างๆ ในปัจจุบันที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพัฒนาการเทคนิคการปฏิบัติกรรมฐานทั้งในประเทศจีนและไทย จากนั้นทำการศึกษาเปรียบเทียบเชิงลึกความเหมือนและความต่างของทั้งสองระบบ โดยเป้าหมายหลักคือ ทำการเปรียบเทียบระบบกรรมฐานของทั้งสองประเทศ ได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้
บทที่ ๒ กล่าวถึงเทคนิคการปฏิบัติกรรมฐานในประเทศไทย คือ ๑) ได้ทำการทบทวนเอกสารในคัมภีร์บาลีและอรรถกถาเกี่ยวกับการปฏิบัติกรรมฐาน ในอานาปานสติสูตร สติปัฏฐานสูตรและคัมภีร์วิสุทธิมรรค ผลการวิจัยพบว่า อานาปานสติสูตรเป็นทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ส่วนสติปัฏฐานสูตรเป็นวิปัสสนากรรมฐานแต่เพียงอย่างเดียว พื้นฐานการเจริญอานาปานสติตาม
อานาปานสติสูตรและสติปัฏฐานสูตรในคัมภีร์วิสุทธิมรรคพัฒนาไปเป็นสู่การกำหนดนับลมหายใจเข้าออก ๒) การปฏิบัติกรรมฐานที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยในปัจจุบันแบ่งเป็น ๔ วิธีคือ การกำหนด
ลมหายใจเข้าออก การกำหนดยุบหนอพองหนอ การกำหนดบางส่วนของกายและการกำหนดภาพนิมิตรลูกแก้ว พบว่าโดยพื้นฐานยึดถือตามหลักการในคัมภีร์ที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่บางส่วนได้สร้างนวัตกรรมตามประสบการณ์การปฏิบัติของแต่ละท่าน ผลการศึกษาพบว่าเทคนิคการทำสมาธิในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทมีพัฒนาการเป็นลำดับชั้นที่ชัดเจน โดยอาศัยพื้นฐานคำสอนในคัมภีร์ อาจารย์กรรมฐานบางท่านได้สร้างนวัตกรรมใหม่ โดยเลือกสอนกรรมฐานตามจริตที่เหมาะกับแต่ละคน
บทที่ ๓ เทคนิคการปฏิบัติกรรมฐานในประเทศจีน แบ่งเป็น ๓ ส่วนคือ ๑) การแปลคัมภีร์กรรมฐานที่มาจากอินเดียและการปฏิบัติจริงในประเทศจีน ผลการศึกษาพบว่าในช่วงนี้เทคนิคกรรมฐานที่มาจากอินเดียเป็นที่นิยมในประเทศจีน เทคนิคกรรมฐานแบบมหายานได้รับความนิยมแต่เพียงเล็กน้อย ส่วนเทคนิคกรรมฐานแบบเถรวาทจะได้รับความนิยมมากกว่า ๒) เทคนิคการปฏิบัติกรรมฐานที่มาจากอินเดีย ได้กลายเป็นกรรมฐานแบบจีนโดยอาจารย์กรรมฐานจีนที่ได้ศึกษาและสร้างเป็นนวัตกรรมขึ้นมาใหม่ ๓) เทคนิคการปฏิบัติกรรมฐานของพระพุทธศาสนาจีนในยุคปัจจุบัน นักปฏิบัติกรรมฐานจีนยังคงฝึกอานาปานสติโดยวิธีนับลมหายใจเข้าออกและอสุภกรรมฐาน อย่างไรก็ตามเทคนิคกรรมฐานของพุทธศาสนาจีนเช่นฉานฮว้าโถว (กงอั้น/โกอาน) โม่เจ้าฉาน และเนี่ยนโฝว (บริกรรมพุทธานุสติ) เป็นต้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บทนี้ได้กล่าวถึงพัฒนาการและการปรับเปลี่ยนเทคนิคกรรมฐานของพุทธศาสนาในจีน ตลอดถึงเทคนิคกรรมฐานที่เหมาะสมกับสภาพสังคมจีนที่มีความเปลี่ยนแปลง
บทที่ ๔ ศึกษาเปรียบเทียบเทคนิคกรรมฐานทางพุทธศาสนาระหว่างประเทศไทยและจีน โดยภาพรวมอาจารย์กรรมฐานทั้งจีนและไทย ล้วนออกจากป่าเพื่อนำเทคนิคกรรมฐานมาเผยแผ่แก่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวัน แต่องค์กรที่จัดฝึกกรรมฐานและวิธีการขององค์กรแตกต่างกัน โดยองค์กรที่จัดกรรมฐานในประเทศไทยมักจะเป็นศูนย์กรรมฐานโดยเฉพาะ แต่ในประเทศจีนจะจัดอยู่ภายในวัด ทั้งสองประเทศมีความเห็นว่าการฝึกกรรมฐานไม่จำเป็นต้องเรียนคัมภีร์ พระนิพพานสามารถบรรลุได้ในชาตินี้เป็นต้น มุ่งให้ประชาชนเข้าร่วมการปฏิบัติธรรม ในด้านการปฏิบัติจริงอาจารย์กรรมฐานในประเทศไทยได้หยิบยืมเอาแนวคิดแบบมหายานมาใช้ ส่วนในประเทศจีนปัจจุบันได้รับเอาเทคนิคกรรมฐานแบบเถรวาทเข้าไปปฏิบัติอย่างกว้างขวางมากมาย เหล่านี้คือความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทคนิคกรรมฐานของพุทธศาสนาไทยและจีน กรรมฐานทั้งสองประเทศจึงเป็นการแลกเปลี่ยนและผสมผสานกัน
บทสุดท้ายได้ทำการสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะในการวิจัยในอนาคต
โดยทั่วไปงานวิจัยเล่มนี้ได้ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ๓ ประการและให้มุมมองใหม่ของการศึกษาการปฏิบัติกรรมฐานและเทคนิคกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ดาวน์โหลด
|