บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาการใช้วิปัสสนากรรมฐานเพื่อการพัฒนาพระสงฆ์ที่ปรากฏในวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา (๒) เพื่อศึกษาการสอนและการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของพระสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษ (๓) เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้วิปัสสนากรรมฐานเพื่อการพัฒนาพระสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษ วิธีการศึกษาในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาเชิงเอกสาร โดยศึกษาข้อมูลจากพระไตรปิฎก เอกสาร ตำรา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหนังสือที่รวบรวมเกี่ยวกับหลักของการปฏิบัติ และเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกพระสังฆาธิการในจังหวัดศรีสะเกษ ๑๘ สำนักปฏิบัติธรรม นำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้เนื้อหาสอดคล้องตามความเป็นจริงที่เกิดจากการสัมภาษณ์ เกิดจากการสังเกตการณ์ และเกิดจากการสนทนาธรรมระหว่างการปฏิบัติธรรม
ผลจากการวิจัยพบว่า
วิปัสสนากรรมฐาน คือ ข้อปฏิบัติต่างๆ ในการฝึกฝนอบรมปัญญาให้เกิดความรู้แจ้ง ในสภาวะของความเป็นจริงของสรรพสิ่ง โดยการกำหนดรูปนามเป็นอารมณ์ วิปัสสนากรรมฐานนั้น มีวิธีปฏิบัติที่สำคัญ คือ “สติปัฏฐาน ๔” ในอดีตมีพระสงฆ์มากมายปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางการสอนของพระพุทธเจ้าแล้วสามารถพัฒนาตัวเองกลายเป็นบุคคลสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เช่น พระสารีบุตรเถระ พระโมคคัลลานะเถระ สองท่านนี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญแห่งยุคในสมัยครั้งพุทธกาล และเป็นอัคราสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขาวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนพระมหากัสสปเถระ ก็เป็นอีกรูปหนึ่งที่โดดเด่นด้วยการปฏิบัติถือธุดงควัตร และเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติกรรมฐานที่เห็นได้ชัดเจนอีกรูปหนึ่ง และพระราหุลเถระ ก็ได้นำหลักการดังกล่าวมาสมาทานถือธุดงควัตรจนบรรลุธรรมในที่สุด เป็นต้น อุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน คือ นิวรณ์ หรือเครื่องกีดกั้นขัดขวางความดีงามของจิตที่ผู้ปฏิบัติไม่อาจหนีพ้นอุปสรรคเหล่านี้ไปได้
การสอนและการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของพระสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษนั้น คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษอยู่ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๐ ร่วมกับอุบลราชธานี นครพนม ยโสธร มุกดาหาร และอำนาจเจริญ มีพระสังฆาธิการปรากฏตามสถิติของคณะสงฆ์ศรีสะเกษ คือ ระดับเจ้าคณะอำเภอ ๒๒ อำเภอ ระดับเจ้าคณะตำบล ๒๑๒ ตำบล และระดับเจ้าอาวาส ๑,๑๓๙ วัด มีพระภิกษุสงฆ์ ๙,๑๘๑ รูป สามเณร ๑,๓๑๕ รูป พระสังฆาธิการที่กล่าวมานี้ผ่านการอบรมด้านวิปัสสนากรรมฐานของคณะสงฆ์ภาค ๑๐ ซึ่งได้กำหนดให้มีโครงการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๗ ถึงปัจจุบัน รวม ๑๒ รุ่นๆ ละ ๑๕๐-๒๐๐ รูป เมื่อผ่านการอบรมแล้วได้จัดให้มีการปฏิบัติธรรมเป็นประจำตามมติมหาเถรสมาคม และตามประกาศคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษขึ้น โดยใช้รูปแบบการปฏิบัติตามหลักสติปัฎฐาน ๔
ในส่วนรูปแบบการใช้วิปัสสนากรรมฐานเพื่อการพัฒนาพระสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษ นั้น คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ตามนโยบายคณะสงฆ์ภาค ๑๐ เป็นรูปแบบในการพัฒนาพระสงฆ์ในหลายด้าน โดยได้รับประโยชน์ กล่าวคือ (๑) ด้านการพัฒนากาย พระสงฆ์มีการสำรวมอินทรีย์สังวร คือ การสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้เป็นปกติอยู่เสมอ (๒) ด้านการพัฒนาศีล พระสงฆ์มีความสัมพันธ์อยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์อย่างสันติวิธี รักความสงบ สำรวมกาย วาจา ใจ ไม่คิดร้าย หรือกล่าวร้ายใครให้มัวหมอง (๓) ด้านการพัฒนาจิต พระสงฆ์มีการพัฒนาจิตที่มั่นคง เข้มแข็ง อดทน ในสิ่งที่มากระทบหรือรบกวนใจ และ (๔) ด้านการพัฒนาปัญญา พระสงฆ์มีทัศนคติที่ถูกต้อง มีความรู้ความเข้าใจ ฉลาดรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น รูปแบบการปฏิบัติตามแนวทางนี้ได้มีการประยุกต์วิธีการปฏิบัติให้เข้ากับบริบทของคณะสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษซึ่งจะทำให้พระสงฆ์สามารถปฏิบัติงานตามหลักพระพุทธศาสนาได้ดี สอดคล้องกับนโยบายของมหาเถรสมาคม คือ (๑) ด้านการปกครองคณะสงฆ์ พระสงฆ์มีการสำรวมระวัง มีสติในการบริหารงานของคณะสงฆ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (๒) ด้านการศาสนศึกษา พระสงฆ์มีจิตเมตตาให้การช่วยเหลือต่อนักเรียน นักศึกษา (๓) ด้านการเผยแผ่ พระสงฆ์มีอุดมการณ์ในการ เผยแผ่ศาสนา รักและศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธองค์ (๔) ด้านการศึกษาสงเคราะห์ พระสงฆ์มีวิสัยทัศน์ มีรูปแบบการดำเนินงานที่ชัดเจน (๕) ด้านการสาธารณูปการ พระสงฆ์มีการพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้น ให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือบรณะปฏิสังขรวัดให้เจริญขึ้น และ (๖) ด้านการสาธารณสงเคราะห์ พระสงฆ์มีวิสัยทัศน์ที่กว้างขวาง มีจิตเมตตาต่อการสนับสนุนสังคมให้อยู่ดีมีสุข อันก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารงานของคณะสงฆ์ทุกระดับ และมีรูปแบบในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ดาวน์โหลด
|