บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑ เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของผู้บังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒. เพื่อศึกษาหลักหลักราชสังหวัตถุ ๔ ในการเพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับใช้กฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๓. เพื่อนำเสนอรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามราชสังคหวัตถุ ๔
ดำเนินการวิจัยโดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research) ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (Indepth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants)จำนวน ๒๕ รูป/คน โดยมีการแบ่งกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๔ กลุ่มคือ ๑) กลุ่มข้าราชการประจำที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ๒) กลุ่มนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมและการบังคับใช้กฎหมาย ๓) กลุ่มนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านรัฐประศาสนศาสตร์ และ ๔) กลุ่มพระสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมธีทางพระพุทธศาสนา ผู้วิจัยนำข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งจากการศึกษาเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญมาทำการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ด้วยวิธีการพรรณนาความ (descriptive interpretation) ประมวลสรุปให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า
๑. สภาพทั่วไปของปัญหาอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม ผู้วิจัยทำสรุปประเด็นปัญหาหลักๆได้ ๓ ประการ คือ ๑)ปัญหาด้านการจัดการ ๒) ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมาย ๓) ปัญหาด้านเจ้าพนักงาน/เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย
๒. สภาพปัญหา อุปสรรคเกี่ยวกับประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของบทบาทองค์กรส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร พบว่า สภาพปัญหาคือขาดความเป็นเอกภาพของกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพราะบทบัญญัติของกฎหมายที่ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและการบังคับใช้ของผู้มีอำนาจบังคับใช้ที่ซ้ำซ้อนกัน อุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร มี ๓ ประเด็น คือ ๑) ปัญหาด้านการบริหารจัดการ ๒) ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม ๓) ปัญหาด้านเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบังคับใช้
๓. หลักพุทธธรรมที่เหมาะสมแก่การเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร หลักพุทธธรรมที่นำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม คือ หลักราชสังคหวัตถุ ๔ สรุปได้ ดังนี้
๑) หลักสัสสเมธะ คือ ความเป็นผู้ฉลาดปรีชาในการพิจารณาถึงผลิตผลอันเกิดขึ้นในแผ่นดิน มีกระบวนการส่งเสริมให้ความรู้
๒) หลักปุริสเมธะ คือ ฉลาดในการบำรุงข้าราชการ การรู้จักส่งเสริมคนดีมีความสามารถ หมายถึงผู้ปกครองต้องมีความฉลาดในการใช้คนทำงาน
๓) หลักสัมมาปาสะ คือ ฉลาดในการผูกประสานปวงประชา หมายถึงผู้ปกครองจะต้องมีความฉลาดในการวางนโยบายผูกประสานรวมใจประชาชนด้วยการส่งเสริมสัมมาอาชีพ
๔) หลักวาชเปยะ หรือ วาจาเปยยะ หมายถึงผู้ปกครองจะต้องรู้จักพูด มีความฉลาดในการใช้วาทะดูดดื่มใจ
ดาวน์โหลด |