หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาวิจิตร ธีรญาโณ (แสงกล้า)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๔ ครั้ง
การศึกษาการเข้าอยู่ปริวาสกรรมของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาวิจิตร ธีรญาโณ (แสงกล้า) ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๑๒/๒๐๑๖
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระเมธีสุตาภรณ์
  สุรพงษ์ คงสัตย์
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้  มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาอยู่    ประการ  คือ  (๑)  เพื่อศึกษาปริวาสกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท  (๒) เพื่อศึกษาการเข้าอยู่ปริวาสกรรมในสมัยพุทธกาล     (๓)  เพื่อศึกษาการเข้าอยู่ปริวาสกรรมของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน

                  ผลการศึกษาพบว่า

              ปริวาสกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท  คือ  การประพฤติวุฏฐานวิธีของพระภิกษุ     ผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส  แล้วปกปิดไว้  หรือไม่ได้ปกปิดไว้ก็ตาม  เป็นบทลงโทษแก่ภิกษุ เมื่อต้องการที่จะเปลื้องตนออกจากอาบัตินั้นจึงต้องอยู่ปริวาสกรรม  เป็นพุทธานุญาตที่จะทรงให้พระสงฆ์จัดการกันเอง  ภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส  จะต้องเข้าไปหาสงฆ์ตั้งแต่    รูปขึ้นไป  เพื่อแจ้งให้สงฆ์ทราบ  และขอปริวาสเป็นอันดับแรก  จากนั้นจึงขอปริวาสและมานัตกับสงฆ์ตั้งแต่    รูปขึ้นไปอีก  ส่วนขั้นตอนสุดท้ายก็คือการขออัพภานกับสงฆ์ตั้งแต่  ๒๐  รูป  ขึ้นไป  ปริวาสจัดเป็นกรรมเบื้องตน  มานัต  อัพภาน  จึงจัดเป็นกรรมที่เหลือ  นอกจากนั้น  การเข้าอยู่ปริวาสกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาทยังเป็นบททดสอบความตั้งใจจริงของผู้ที่จะเข้า  มาบวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา   ปริวาสกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท  จึงมี    ประเภท  คือ  ปริวาสกรรมของภิกษุ  มีปฏิจฉันนปริวาส  เป็นต้น  และปริวาสกรรมของคฤหัสถ์  ที่เรียกว่า  ติตถิยปริวาส

                 การเข้าอยู่ปริวาสกรรมในสมัยพุทธกาลมีขึ้นหลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัตติอาบัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุแล้ว  ภิกษุทั้งหลายในสมัยพุทธกาลต้องอาบัติสังฆาทิเสสในสิกขาบทต่างๆและมีการเข้าอยู่   ปริวาสกรรมในสำนักสงฆ์มากขึ้นแต่ก็ยังประพฤติตนไม่เหมาะสมโดยประการต่างๆ  พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัตติปริวาสิกวัตร  ๙๔ ข้อ โดยแบ่งออกเป็น   หมวด สำหรับให้ภิกษุ            ผู้อยู่ปริวาสกรรมได้ประพฤติ   การประพฤติวัตรตลอดเวลาสร้างความลำบากให้แก่ภิกษุผู้อยู่ปริวาสกรรมเป็นอย่างมาก  พระพุทธองค์ยังได้ทรงบัญญัตติข้อปฏิบัติเพิ่มเติมอีกเช่น  การเก็บวัตร  การสมาทานวัตร  เป็นต้น  การเข้าอยู่ปริวาสกรรมในสมัยพุทธกาลจึงมี  ๔ อย่าง  คือ  ปฏิจฉันนปริวาส  อปฏิจฉันนปริวาส  สุทธันตปริวาส  สโมธานปริวาส 

            การเข้าอยู่ปริวาสกรรมของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบัน  เป็นการชำระศีลในส่วนที่เป็น            ครุกาบัติที่พอแก้ไขได้ทำความบกพร่องของศีลให้มีความสมบูรณ์ขึ้น  มีขั้นตอนละวิธีการเข้าอยู่   คือ  ขั้นตอนละวิธีการก่อนเข้าอยู่   ขั้นตอนละวิธีการขณะเข้าอยู่  ขั้นตอนละวิธีการหลังเข้าอยู่    กิจกรรมการเข้าอยู่ปริวาสกรรมเช่น  การฟังธรรม  การนั่งสมาธิ  เดินจงกรม  การบอกวัตร                    การเก็บวัตร  เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการปฏิบัติในแต่ละสำนักมีความแตกต่างกันโดยยึดถือตามธรรมเนียมในแต่ละท้องถิ่น  ตามรูปแบบของคณะครูบาอาจารย์ที่ได้นำปฏิบัติสืบๆกันมา แต่ไม่ว่าการเข้าอยู่ปริวาสกรรมจะมีรูปแบบการปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไรก็ตามก็มีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน  คือเพื่อความบริสุทธิ์แห่งศีล   และเพื่อความผ่องใสแห่งจิต

 

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕