บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาเรื่องสมบัติในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษาเรื่องวิบัติในคัมภีร์พระพุทธศาสนา และ ๓) เพื่อวิเคราะห์เรื่องสมบัติและวิบัติในคัมภีร์พระพุทธศาสนาที่สัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตในสังคมไทยปัจจุบัน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เน้นศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร โดยรวบรวมข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา สำรวจข้อมูลทุติยภูมิจากตำราวิชาการ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ผลการศึกษาพบว่า
๑. สมบัติในพระพุทธศาสนา หมายถึง ข้อดี ความเพียบพร้อม ความสมบูรณ์แห่งองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งอำนวยผลดีให้แก่การประกอบกรรม มีอยู่ ๔ ประการ คือ ๑) คติสมบัติ ความถึงพร้อมด้วยคติที่ไป คือ การเกิดในประเทศที่สมควรและเหมาะสมในการที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัย มีโอกาสที่จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมอันจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ชาวโลก ๒) อุปธิสมบัติ ความถึงพร้อมด้วยรูปกายสมส่วน งดงาม คือ มีอวัยวะครบ ๓๒ ประการ สมบูรณ์และงดงามตามสภาวะแห่งตน ไม่เป็นอุปสรรคในการประกอบกุศลตามความต้องการของมนุษย์และสรรพสัตว์ที่มองเห็นความทุกข์ที่เกิดจากการผิดศีล ๓) กาลสมบัติ ความถึงพร้อมด้วยกาล คือเวลาที่เหมาะสม ในการที่จะแสดงความมีสติปัญญาสามารถในการนำสังคมไปสู่สันติสุขได้ และ ๔) ปโยคสมบัติ ความถึงพร้อมด้วยการประกอบความเพียร สมบัติทั้ง ๔ ประการจะบังเกิดได้ต่อเมื่อมีการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ ๓ หรือที่เรียกว่าที่ตั้งแห่งการทำบุญเพื่อให้ได้สมบัติ คือ ๑) การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ปัน คือการรู้จักให้ทาน อันเป็นการสละความเห็นแก่ตัว หรือที่เรียกว่าความตระหนี่ที่มีในตนให้เบาบางลงตามสมควรแก่เหตุ อันมีปัญญาเป็นเครื่องประคับประคอง ๒) การมีศีล คือการไม่เบียดเบียนกันและกัน อันเป็นพื้นฐานของความต้องการของมนุษย์และสรรพสัตว์ที่มองเห็นความทุกข์ที่เกิดจาการผิดศีล และ ๓) การพัฒนาสมาธิ คือการรู้จักอบรมจิตของตนเอง อันเป็นการพิจารณาจัดระเบียบความคิดของตนให้เป็นระบบ รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ตามหลักธรรม
๒. วิบัติ หมายถึง ข้อเสีย จุดอ่อน ความบกพร่องแห่งองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งไม่อำนวยผลที่เกื้อกูลแก่การให้ผลของกรรมดี มีอยู่ ๔ ประการ คือ ๑) คติวิบัติ คติเสีย เช่น ในสมัยพุทธบาทกาลนี้มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติตรัสสอนธรรม เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชาวโลก แต่ตัวไปเกิดอยู่เสียในป่าเขา แม้จะมีสติปัญญาดี ก็ไม่มีโอกาสได้ศึกษาปฏิบัติตามหลักธรรม ๒) อุปธิวิบัติ รูปกายเสีย คือการได้เกิดในถิ่นหรือในตระกูลมั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยทรัพย์อันน่าพึงพอใจของชาวโลกแต่พิกลพิการง่อยใบ้ ไม่อาจได้รับการยกย่องเชิดชูด้วยเกียรติยศจากสังคมที่ชาวโลกนับถือกันว่าเป็นความสุขเพราะร่างกายหรือสังขารไม่เอื้ออำนวย ๓) กาลวิบัติ กาลเสีย เช่น ในยามที่สังคมเริ่มเสื่อมจากศีลธรรมหรือยามบ้านเมืองวุ่นวาย ด้วยศึกสงคราม กอรปกับผู้ปกครองมีจิตใจที่ไม่มั่นคง แม้จะมีผู้ที่มีสติปัญญาความสามารถ ที่ได้รับการยกย่องจากสังคมมาให้การแนะนำในแนวทางแห่งสันติสุข ก็ไม่ได้รับความสนใจยกย่อง เพราะคำแนะนำของท่านไม่เหมาะกับโอกาสและกาลในขณะนั้น และ ๔) ปโยควิบัติ กิจการเสีย คือ การประกอบกิจที่ไม่ส่งผลในทางที่ดีแก่ผู้ประกอบ ไม่เป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญทั้ง ๓ ประการ เช่น มีความถึงพร้อมด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิที่สังคมรองรับแต่ความประพฤติคือนิสัยไม่ดีติดสุราและการพนัน ไม่รู้จักให้ปันสิ่งของ และไม่มีการอบรมจิต ตกเป็นทาสของอบายมุข ถ้าเลือกให้ไปทำงาน งานนั้นๆย่อมเกิดความเสียหาย
๓. สมบัติมีความสัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตในสังคมไทยปัจจุบัน เริ่มต้นจากการปฏิบัติที่ปัจเจกบุคคล ครอบครัว จนถึงสังคมประเทศชาติด้วยหลักศรัทธา มีความเชื่อมั่นในเรื่องกรรมหรือการกระทำ โดยเฉพาะในทัศนะของพระพุทธศาสนามีหลักคำสอนที่ทุกคนมีความเสมอภาคในศักยภาพทางจิตวิญญาณที่จะบรรลุธรรมที่เรียกว่าอริยสมบัติ ซึ่งการที่จะประสบกับความสำเร็จแห่งกิจนั้นๆได้ ต้องประกอบไปด้วยหลักธรรมที่องอาจกล้าหาญ คือ “เวสารัชชกรณธรรม” อันประกอบด้วยศรัทธา และมีปัญญาคอยกำกับให้มุ่งตรงต่อเป้าหมาย
ส่วนวิบัตินั้นเป็นสิ่งตรงกันข้ามที่ทำให้ชีวิตหม่นหมองและไม่มีความสุขในการดำเนินชีวิตประจำวันของบุคคลในสังคม เพราะมีความเห็นตรงกันข้ามกับแนวทางที่สังคมยอมรับและถือปฏิบัติ ที่เรียกกันว่า “ทิฏฐิวิบัติ” คือมีความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม ขาดความศรัทธาต่อหลักธรรมอันเป็นกฎหมายทางจริยธรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ผู้ที่ประกอบด้วยวิบัตินี้ ไม่ว่าจะเป็นวิบัติ อะไรก็ตามอันนับเนื่องในวิบัติทั้ง ๔ ล้วนนำมาซึ่งความเสียหายทั้งแก่ตนเอง และสังคมส่วนรวม
ดาวน์โหลด |