บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ คือ ๑) เพื่อศึกษาลักษณะทั่วไปของมิตร คุณสมบัติ และคุณธรรมของกัลยาณมิตรในพระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษาแนวคิดและความสำคัญของการเจริญกรรมฐานในพระพุทธศาสนา และ ๓) เพื่อวิเคราะห์ความสำคัญ คุณธรรมและบทบาทของกัลยาณมิตรในการเจริญกรรมฐาน และการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการวิจัยเอกสาร เพื่อวิเคราะห์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกัลยาณมิตรและการเจริญกรรมฐาน และสังเคราะห์บทบาทของกัลยาณมิตรในการเจริญกรรมฐาน สรุปผลการวิจัยได้ดังต่อไปนี้ ๑) มิตร แบ่งได้เป็น ๒ นัย คือ นัยทางศาสนา หมายถึง คนที่มีไมตรีต่อกัน มีเยื่อใยดี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ อาจเป็นผู้ใหญ่หรือผู้เสมอกันก็ได้ ส่วนอีกนัยหนึ่งตามที่คนเข้าใจทั่วไป มิตร หมายถึง เพื่อน เกลอ ที่คบหากัน สนิทสนมหรืออยู่ใกล้ชิดกัน ความหมายทางศาสนา มิตรจะมีความลึกซึ้งเหนียวแน่น และมีธรรมคือเมตตามากกว่ามิตรที่เรียกว่าเพื่อนตามที่เข้าใจทั่วไป คุณสมบัติของกัลยาณมิตร คือ ลักษณะของบุคคลที่เรียกว่าเป็นสัตบุรุษ มีธรรมของสัตบุรุษ เรียกว่า สัปปุริสธรรม ๗ คุณธรรมของกัลยาณมิตร ประกอบด้วย พรหมวิหารธรรม โยนิโสมนสิการ สังคหวัตถุธรรม และสัปปุริสธรรม หลักธรรมที่สอดคล้องกับกัลยาณมิตรเพื่อยังผลให้เกิดความสัมพันธ์ในสังคม ประกอบด้วย ฆราวาสธรรม ๔ ทิศ ๖ และกัลยาณมิตรธรรม ๗ สำหรับคุณลักษณะของกัลยาณมิตรในการเจริญกรรมฐาน คือ เป็นกัลยาณมิตรที่ดีตามหลักกัลยาณมิตรธรรม ๗ ที่มีคุณสมบัติที่ถึงพร้อม ๘ ประการ คือ ๑) ความเชื่อ (ศรัทธา) ๒) การสำรวมกาย วาจา และใจ ๓) การฟัง (สุตะ) ๔) การเสียสละ (จาคะ) ๕) ความเพียร (วิริยะ) ๖) ความระลึกได้ (สติ) ๗) ความตั้งใจมั่น (สมาธิ) และ ๘) ความรอบรู้ (ปัญญา) และประกอบด้วยคุณค่า ๓ ประการ คือ เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค ทำให้อริยมรรคบริบูรณ์ และเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ๒) กรรมฐาน คือ ที่ตั้งแห่งการงาน อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งการงานของใจ วิธีฝึกอบรมจิตให้มีสติกำหนดรู้เท่าทันทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น กรรมฐานในพระพุทธศาสนามี ๒ ประเภท คือ สมถ กรรมฐาน หมายถึง อุบายหรือวิธีการที่ทำให้จิตเกิดความสงบ และวิปัสสนากรรมฐาน หมายถึง วิธีการที่สร้างให้เกิดปัญญาหยั่งรู้ เห็นแจ้งในสัจธรรมทั้งปวง เป็นความรู้แจ้งเห็นจริงตามกฎของไตรลักษณ์ ๓) ความสำคัญของกัลยาณมิตรมี ๕ ประการ คือ เป็นจุดเริ่มต้นสู่ชีวิตที่ดี – เป็นผู้ที่รู้ทาง – เหมือนเข็มทิศของชีวิต – มีธรรมเสมอหรือดีกว่าตน – พาให้เกิดสัมมาทิฏฐิ มีความเป็นกัลยาณมิตรธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ หลักกัลยาณมิตรธรรม ๗ คือ น่ารัก – น่าเคารพ – น่าเจริญใจ – รู้จักพูดให้ได้ผล – อดทนต่อถ้อยคำ – แถลงเรื่องล้ำลึกได้ – ชี้ทางที่ถูกให้ ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่างของการเป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่ชี้นำเหล่าสาวกของพระองค์บรรลุอรหัตผล และในปัจจุบันพระเถระผู้สอนกรรมฐานได้ประสบผลสำเร็จนั้นล้วนยึดหลักกัลยาณมิตรธรรมในการสอนกรรมฐาน สำหรับด้านการประยุกต์ใช้นั้นได้นำหลักกัลยาณมิตรธรรมในแต่ละข้อมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ดาวน์โหลด