บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ เรื่อง “ศึกษาเปรียบเทียบการบริหารเชิงพุทธกับหลักธรรมาภิบาล” มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารเชิงพุทธ ๒) เพื่อศึกษาหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล ๓) เพื่อเปรียบเทียบหลักการ และแนวคิดของการบริหารเชิงพุทธกับหลักการและแนวคิดหลักธรรมาภิบาล ดำเนินการศึกษาโดยการศึกษาเอกสาร และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั้งเอกสารชั้นปฐมภูมิ ได้แก่ พระไตรปิฎก และเอกสารชั้นทุติยภูมิ ได้แก่ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ เอกสาร สิ่งตีพิมพ์ทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเชิงพุทธและหลักธรรมาภิบาล นำข้อมูลที่ได้มาจัดประเภทตามหัวเรื่อง ที่กำหนด วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา เรียบเรียงเพื่อนำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะ
ผลการวิจัยพบว่า
๑) หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารเชิงพุทธ เป็นการนำหลักการบริหาร ทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหาร ตลอดจนใช้การบริหารเชิงพุทธมาเป็นแนวทางหรือหลักการดำเนินงานอย่างถูกวิธีและดีงามตามความเหมาะสม มีหลักสำคัญ ๓ ประการ คือ การครองตน การครองคน และการครองงาน
๒) หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล พบว่า เป็นการบริหารที่ว่าด้วย การสร้างระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ในการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมให้มีประสิทธิภาพตามหลักกฎหมาย มีส่วนรับผิดชอบในระบบการบริหารจัดการบ้านเมืองและสังคม โดยอาศัยหลัก ๖ ประการ คือ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า
๓) การเปรียบเทียบหลักการและแนวคิดของการบริหารเชิงพุทธกับหลักการและแนวคิดของหลักธรรมาภิบาล พบว่า มีความสอดคล้องกันในส่วนของเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งแก่บุคคล องค์กร และสังคม แต่อาจจะมีข้อแตกต่างในรายละเอียด หรือวิธีการปฏิบัติ กล่าวคือ การครองตนตามหลักการบริหารเชิงพุทธ เป็นการปฏิบัติตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ คือ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาล รู้จักชุมชน และรู้จักบุคคล ส่วนหลักธรรมาภิบาลให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตนตามหลักคุณธรรมที่เป็นหลักของความดีงาม ที่ปลูกฝังอยู่ในจิตใจ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ควบคุมพฤติกรรมที่สะท้อนออกมาให้ถูกต้องเหมาะสม และหลักความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ การกระทำและผลงานของตนที่ปรากฏ รับผิดชอบต่อสมาชิก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย องค์กร และสังคม
การครองคนตามหลักการบริหารเชิงพุทธเน้นการปฏิบัติตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ซึ่งเป็นธรรมยึดเหนี่ยวใจบุคคล และประสานหมู่ชนไว้ในความสามัคคี ประกอบด้วย ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา ส่วนหลักธรรมาภิบาลเน้นที่หลักนิติธรรม อันเป็นการใช้กฎเกณฑ์ ระเบียบวินัย ข้อบังคับ กติกา หรือข้อตกลง มาเป็นบรรทัดฐานในการบริหาร อย่างยุติธรรม เสมอภาค เป็นธรรม และชอบธรรม ได้รับการยอมรับและปฏิบัติตามจากสังคม และสมาชิก และหลักการมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมรับรู้ แสดงความคิดเห็น ร่วมปฏิบัติ หรือร่วมตัดสินใจ ตลอดจนร่วมสนับสนุน ติดตาม และตรวจสอบ
การครองงานตามหลักการบริหารเชิงพุทธเน้นการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท ๔ ซึ่งเป็นคุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา ส่วนหลักธรรมาภิบาลให้ความสำคัญกับหลักความโปร่งใส คือการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งกันและกันโดยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้สมาชิกในสังคมเข้าถึงได้ และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และหลักความคุ้มค่า คือการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการรายงานผลการทำงานอย่างต่อเนื่อง
ดาวน์โหลด
|