บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธเจ้า, เพื่อศึกษาวิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพุทธทาสภิกขุ, และเพื่อศึกษาวิเคราะห์วิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพุทธทาสภิกขุ ศึกษาวิธีดำเนินการวิจัย ศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระไตรปิฎก อรรถกถา ตำรา เอกสารทางวิชาการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
๑. วิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นการเผยแผ่หลักธรรมที่มีเป้าหมาย คือ บุคคล โดยใช้วิธีการสอนตามจริตของบุคคล และใช้หลักโอวาทปาติโมกข์ คือการไม่เบียดเบียน ไม่ทำบาป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส และส่งพระสาวกไปประกาศชุดแรก จำนวน ๖๐ รูป เป็นการปลูกฝังอบรมให้พุทธศาสนิกชนเป็นคนดีมีศีลธรรมนั้น ถือว่าเป็นหน้าที่โดยตรงของพระสงฆ์สาวกตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน งานเผยแผ่พุทธธรรมเป็นงานที่สำคัญยิ่งของคณะสงฆ์ประการหนึ่ง วิธีการเผยแผ่พุทธธรรมในสมัยพุทธกาลนั้นพระพุทธองค์ทรงใช้วิธีการเผยแผ่แบบประยุกต์ให้เข้ากับสังคมสภาพแวดล้อม ชุมชน จารีตประเพณีรวมทั้งอุปนิสัยและระดับภูมิปัญญาของผู้ฟังแต่ละคน ทรงให้เทคนิคและวิธีการที่หลากหลายแตกต่างกันไป เช่น ทรงใช้อุบายในการเลือกคน หรือการรู้จักรอจังหวะและโอกาส เป็นต้น หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับปรินิพพาน พระสาวกทั้งหลายก็มีการทำสังคายนาพระธรรมวินัย และหลังสังคายนาครั้งที่ ๓ ที่มีพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ผู้อุปถัมภ์ ก็ได้ส่งพระเถระออกประกาศพระพุทธศาสนาไปทั่วโลกมีจำนวน ๙ สาย
๒. วิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพุทธทาสภิกขุ ท่านพุทธทาส มีนามเดิมว่า เงื่อม นามสกุล พานิช เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ในสกุลของพ่อค้าที่ตลาด พุมเรียง ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี บิดา ชื่อ เซี้ยง มารดาชื่อ เคลื่อน มีน้องสองคน เป็นชายชื่อยี่เก้ย และเป็นหญิงชื่อกิมซ้อย บิดาของท่านมีเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพหลักคือการค้าขายของชำ บวชเป็นพระ ตามคตินิยมของชายไทยที่วัดโพธาราม ไชยา ได้รับฉายาว่า"อินทปัญโญ" แปลว่า ผู้มีปัญญา อันยิ่งใหญ่ เดิมท่านตั้งใจจะบวชเรียน ตามประเพณี เพียง ๓ เดือน แต่ ความสนใจ ความซาบซึ้ง ความรู้สึกเป็นสุข และสนุกในการศึกษาและเทศน์แสดงธรรม ตลอดชีวิต ของ ท่านอาจารย์พุทธทาส ท่านย้ำอยู่เสมอว่า "ธรรมะ คือ หน้าที่" เป็นการทำหน้าที่ เพื่อความอยู่รอด แต่ที่ทำให้สังคมโลกได้รับรู้มาก คือ ปณิธาน ๓ ข้อ ข้อที่๓ ที่กล่าวถึง การดึงมนุษย์ให้ออกจากวัตถุนิยม ข้อนี้เป็นข้อที่องค์การสหประชาชาติได้มอบรางวัลเกียติยศบุคคลสำคัญของโลก คือ รางวัลยูเนสโกให้ พุทธทาสได้ทำหน้าที่ ในฐานะ ทาสผู้ซื่อสัตย์ ของพระพุทธเจ้า ทุกอณูแห่งลมหายใจ เข้าออก จนแม้วาระสุดท้าย แห่งชีวิต จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า ผลงาน ที่ท่าน สร้างสรรค์ ไว้ เพื่อ เป็น มรดก ทางธรรมนั้น จะมีมากมาย
๓. ผลของวิธีการเผยแผ่หลักธรรมของพุทธทาสภิกขุ ได้เริ่มงานศึกษาค้นคว้าหลักพุทธธรรมและงานเผยแผ่มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ผลงานเขียนเรื่องแรกเป็นบทความชื่อ ประโยชน์แห่งทาน ต่อมาเมื่อท่านเดินทางกลับถึงบ้านเกิดแล้วได้เขียนบทความ วิจารณ์สภาพพระพุทธศาสนาและบทบาทของพระสงฆ์เรื่องการปฏิบัติธรรม พูดบรรยายธรรมะมีผู้สนใจฟังมากสถานที่ปฏิบัติธรรมและการศึกษาค้นคว้าหลักพุทธธรรมเพื่อการเผยแผ่ที่ทุกคนรู้จักกันอย่างดีในยุคปัจจุบันที่เรียกว่า สวนโมกขพลาราม ท่านพุทธทาสได้ย้ำอยู่เสมอว่า "ธรรมะ คือ หน้าที่" ที่ทั้งทางฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณของมนุษย์ และท่านได้ทำหน้าที่ในฐานะทาสผู้ซื่อสัตย์ของพระพุทธเจ้า ผลงานการแต่งหนังสือธรรมะของท่านพุทธทาสที่ทรงคุณค่าและมีผู้สนใจอ่านมาก เช่น หนังสือ คู่มือมนุษย์ ผลงานเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดสามารถอ่านเข้าใจได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง หนังสือ แก่นพุทธศาสน์ ผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานที่สำคัญและเป็นหัวใจสำคัญของผู้สนใจศึกษาธรรมะทั้งหลาย หนังสือเรื่องนี้ได้รับรางวัลขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘
ดาวน์โหลด
|