การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method Research) ประกอบด้วย การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการคือ ๑) เพื่อศึกษาบทบาทของพระสงฆ์ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ๒) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล กับบทบาทในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ในอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ดำเนินการวิจัยกับกลุ่มพระสงฆ์ในอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม จำนวน ๒๖๗ รูป ได้มาโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อมูลภาคสนาม และแบบสอบถามความคิดเห็น การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามใช้โปรแกรมสำเร็จรูปโดยใช้สถิติร้อยละสำหรับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสำหรับระดับความคิดเห็น และใช้การทดสอบด้วยค่าสถิติไคสแควร์ () สำหรับหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยใช้ค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ผลการวิจัย พบว่า
๑. บทบาทของพระสงฆ์ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม พบว่า พระสงฆ์มีการปฏิบัติงานด้านการศึกษาอบรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (µ =๓.๗๒) และเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก
๒. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับบทบาทของพระสงฆ์ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐมนั้น พบว่าพระสงฆ์ที่มีอายุ พรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และวุฒิการศึกษาสามัญ มีความสัมพันธ์กันซึ่งยอมรับสมมติฐานการวิจัยทุกข้อที่ตั้งไว้
๓. ผลการสัมภาษณ์ พระสงฆ์ที่อุทิศตนเพื่อการพระศาสนายังมีอยู่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร พระสงฆ์ที่จะเป็นนักเผยแผ่พระพุทธศาสนายังขาดภูมิความรู้และประสบการณ์ในการเผยแผ่ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะได้ ทักษะ ลีลาในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของผู้ที่ทำหน้าที่เผยแผ่ยังมีอยู่น้อย รูปแบบที่ใช้ในการเผยแผ่ยังขาดวิวัฒนาการให้ทันกับความเจริญก้าวหน้าของสังคม ขาดการสนับสนุนจากส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแผ่พระศาสนา พระสงฆ์ทำอยู่องค์กรเดียว
๔.ข้อเสนอแนะในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ด้านการศึกษาอบรม ควรเพิ่มการจัดอบรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้แก่พระสงฆ์ให้มากกว่านี้ เพื่อให้พระสงฆ์สามารถเผยแผ่ได้ถูกต้อง ควรตั้งทุนมูลนิธิเพื่อเตรียมดำเนินการเผยแผ่ไว้โดยเฉพาะ ควรจัดหาบุคลากรด้านการเผยแผ่เพิ่มเติม เริ่มสร้างทีมงานในกลุ่มพระเผยแผ่ด้วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกัน ควรมีการฝึกฝนอบรมในเรื่องอาจาระความประพฤติตลอดถึงฝ่ายปกครองก็ต้องดูแลพระสงฆ์อย่างเคร่งครัด ด้านการเทศนา ควรให้โอกาสพระรุ่นใหม่ๆ ได้มีโอกาสฝึกหัดการแสดงธรรมในโอกาสต่างๆควรมีเวทีสำหรับให้พระสงฆ์ได้มีโอกาสแสดงธรรมบ้าง ควรมีการพัฒนารูปแบบการเผยแผ่ให้ทันสมัยเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย ควรมีการจัดหาทรัพยากรที่สำคัญในการเผยแผ่ให้เพียงพอ และด้านการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาควรมีการสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนามากกว่านี้ และในการเผยแผ่ควรการสอดแทรกวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในชนบทด้วย
|