การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อบทบาทด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อบทบาทด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา และข้อเสนอแนะด้านการปกครองของพระสังฆาธิการ ในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Research) ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลในการสัมภาษณ์เชิงลึก (Indepth Interview) ผู้วิจัยได้สร้างแบบสัมภาษณ์ เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structure Interview)

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ พระสงฆ์ในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานีจำนวน ๑๕๔ รูป ซึ่งใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับ และแบบสอบถามปลายเปิด ซึ่งผู้ศึกษาสร้างขึ้นเอง โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .๙๕๐๑ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ และการวิเคราะห์แบบสัมภาษณ์

ผลการศึกษาพบว่า

พระสงฆ์ มีความคิดเห็นต่อบทบาทด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x = ๓.๘๖) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุด (x = ๔.๕๐)  ด้านมีการจัดประชุมพระสังฆาธิการตามวาระโอกาสต่างๆ ที่ผู้บัญชาเหนือตนจัดให้มีการประชุม ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x = ๒.๔๙) ด้านมีการยกย่องและชมเชยพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ/กิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ

ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อบทบาทด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มี อายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสามัญ วุฒิการศึกษานักธรรม และวุฒิการศึกษาเปรียญธรรม ที่ต่างกันมีความคิดเห็นต่อบทบาทด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานีไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

ผลการวิจัยได้พบว่าข้อเสนอแนะด้านการปกครองของพระสังฆาธิการในอำเภอสามโคก  จังหวัดปทุมธานี ควร ปกครองด้วยพระธรรมพระวินัย และมีมาตรการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ร่วมกันและปฏิบัติตามมติของมหาเถรสมาคม และต้องมีบทลงโทษผู้ที่ละเมิดพระธรรมพระวินัย และกฎมหาเถรสมาคม

ดาวน์ใหลด