วิทยานิพนธ์นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิเคราะห์ญาณวิทยาในพุทธปรัชญาเถร วาทโดยอาศัยคัมภีร์ปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรค ผู้วิจัยได้แบ่งประเด็นที่สำคัญในการศึกษา ออกเป็น ๓ ประเด็นคือ ๑. ญาณวิทยาในพุทธปรัชญาเถรวาท ๒. ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสส วิสุทธิมรรค ๓. ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับญาณวิทยาในปรัชญาต่างสำนัก ผลจากการวิจัยมีข้อสรุปที่สำคัญ คือ ๑. ญาณวิทยาในพุทธปรัชญาเถรวาท เป็นระบบความคิดที่มุ่งทำลายความไม่รู้ (อวิชชา) ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเวียนว่าย ตาย เกิด และทำความรู้ (วิชชา) ให้เกิดขึ้น โดยเปลี่ยนแปลงความเห็น (ทิฏฐิ) และพัฒนาจนเกิดความรู้ที่ถูกต้อง กล่าวคือ ธรรมชาติความรู้ของพุทธปรัชญาเถรวาทมุ่งมองทุกอย่างตามเป็นจริงตามหลักไตรลักษณ์ จน เข้าใจว่าทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัย ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง เมื่อไม่มีเหตุปัจจัย ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ไม่ได้ รวมทั้งเข้าใจสมมติบัญญัติซึ่งอธิบายถึงความจริงในแง่ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ยึดติดกับ หลักการจนกลายเป็นความงมงาย แต่ต้องอาศัยการแยกแยะด้วยปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝน อบรม ๒. ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรค แบ่งความรู้เป็น ๒ ระดับ คือ ความรู้ ทางโลก (โลกิยะ) และความรู้เหนือโลก (โลกุตตระ) กล่าวคือ ความรู้ระดับโลกิยะเป็น พื้นฐานในการพัฒนาความรู้โดยเริ่มตั้งแต่การรับรู้ การจำได้ การรู้แจ้ง จนเกิดความเข้าใจ ส่วนความรู้ระดับโลกุตตระ เป็นวิธีการขจัดความไม่รู้ (อวิชชา) ที่เป็นพื้นฐานของความไม่เข้าใจทุกอย่างตามจริง แต่ความรู้ทั้ง ๒ ระดับล้วนต้องอาศัยกันและกัน กล่าวคือ ความรู้ ระดับโลกิยะมีอยู่ก็เพื่ออธิบายความรู้ในระดับโลกุตตระ ส่วนความรู้ระดับโลกุตตระจะ เกิดขึ้นได้โดยอาศัยความเข้าใจความรู้ระดับโลกิยะเพื่อแยกแยะว่าสิ่งใดเป็นความจริงโดย สมมติ และสิ่งใดเป็นความจริงสูงสุด ซึ่งความรู้ทั้ง ๒ เกิดจากการพัฒนาตามหลักไตรสิกขา ที่ประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา ๓. ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับญาณวิทยาในปรัชญาต่างสำนัก มี ข้อที่สรุป ดังนี้ คือ ๑) ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับปรัชญาเชนต่างพัฒนาความรู้ผ่าน ประสบการณ์ไปสู่ความเข้าใจสรรพสิ่งได้ตามจริง ส่วนความต่างกันคือ ปรัชญาเชนมอง ความรู้ว่า มีความหลากหลาย จึงตัดสินความรู้โดยทั่ว ๆ ไปว่าไม่สมบูรณ์ ความรู้ทุกอย่างจึง ถูกต้องทั้งสิ้น แต่ในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคถือว่า ความรู้สูงสุดจึงมีอย่างเดียวแต่อธิบายด้วย สมมติหรือทฤษฎีหลายอย่างด้วยกัน ๒) ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับปรัชญาสางขยะถือว่า ความรู้สูงสุด คือความรู้อันเป็นเหตุดับทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง ส่วนความต่างกันคือ ปรัชญาสางขยะถือว่า ความ จริงสูงสุดเกิดจากการรู้แจ้งอาตมันจนไม่หวั่นไหวไปตามอำนาจกิเลส และเป็นระบบปรัชญา ที่อาศัยการคิดเป็นหลัก ไม่มีหลักการปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคถือว่า ความรู้สูงสุดเป็นการมองทุกอย่างตามจริง เมื่อเข้าใจย่อมหาวิธีปฏิบัติตามหลักมรรคมีองค์ ๘ ๓) ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับเหตุผลนิยม ปกรณ์วิเสสวิสุทธิ มรรคได้นำเอาหลักการทางเหตุผลมาอธิบายความจริง แต่ความรู้ขั้นเหตุผลยังไม่สามารถทำ ให้เข้าใจความจริงที่แท้ได้ทั้งหมด เพราะยังขาดประสบการณ์ในการพิจารณา ความรู้ใน ปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคจึงเป็นความรู้หลังประสบการณ์ ซึ่งต่างจากเหตุผลนิยมที่เชื่อใน ความรู้ก่อนประสบการณ์ ๔) ญาณวิทยาในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคกับประสบการณ์นิยม ในปกรณ์วิ เสสวิสุทธิมรรคยอมรับว่า ผัสสะหรือประสาทสัมผัสเป็นพื้นฐานการรับรู้เบื้องต้น แต่ใน ระดับสูงขั้นไปต้องอาศัยผัสสะที่เกิดจากญาณที่ประจักษ์แก่ตน ฉะนั้น ความรู้ขั้นผัสสะของ ประสบการณ์นิยมจึงเป็นความรู้ระดับพื้นฐาน แต่ไม่สามารถโยงไปสู่ความรู้ที่เกิดภายในได้ แต่ความรู้ที่ปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรคมุ่งหมายเป็นความรู้ความเข้าใจที่เกิดจากการฝึกฝนอบรม ภายใน เพื่อเชื่อมโยงถึงความรู้ภายนอก. Download : 254807.pdf