การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพุทธศาสนิกชน ต่อการบริหารวัดในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของพุทธศาสนิกชน ต่อการบริหารวัดในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางของการบริหารวัด ในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ศึกษาวิจัยโดยใช้การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอเมือง จำนวน ๓๗๗ คนซึ่งใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับ และแบบสอบถามปลายเปิด ซึ่งผู้ศึกษาสร้างขึ้นเอง โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๕๗ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความคิดเห็นโดยใช้ค่าที (t-test) เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่ม และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไปและเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ผลการวิจัยพบว่า พุทธศาสนิกชนที่ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงจำนวน ๒๐๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๓.๘๕ มีอายุระหว่าง ๒๐ - ๓๐ ปี จำนวน ๑๒๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๘๙ มีสถานภาพสมรส จำนวน ๑๘๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๑๓ มีระดับการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป จำนวน ๑๙๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๖๖ มีรายได้ต่อเดือน ๘,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๙๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๑๔ และมีอาชีพรับราชการ จำนวน ๑๗๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๓๖
พุทธศาสนิกชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารวัดในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x= ๓.๖๙) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน
เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของพุทธศาสนิกชนต่อการบริหารวัดในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ, อายุ, สถานภาพ, ระดับการศึกษา, รายได้เฉลี่ยต่อเดือน, อาชีพ พบว่า พุทธศาสนิกชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน และ อาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารวัด แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนพุทธศาสนิกชนที่มี เพศ, อายุ, สถานภาพ และ ระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารวัด ไม่แตกต่างกัน
ปัญหาและแนวทางในการการบริหารวัดในอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี ในด้านการปกครอง ให้มีการตรวจสอบประวัติของผู้มาขอบวช และเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้นด้านการศาสนศึกษา อยากให้ส่งเสริมสนับสนุนด้านการศึกษาให้มากขึ้น ด้านศึกษาสงเคราะห์ ให้มีการมอบทุนและหางบประมาณด้านการศึกษา ด้านการเผยแผ่ ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการใช้สื่อ ด้านสาธารณูปการ ให้มีการวางแผนในการก่อสร้าง ด้านสาธารณสงเคราะห์ ให้สงเคราะห์ทางด้านจิตใจมากกว่าวัตถุ
|