การศึกษาวิจัยเรื่องการศึกษาการบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรมของวัดในอำเภอดำเนินสะดวกจังหวัดราชบุรี โดยวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ ๑)เพื่อศึกษาการบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรม ๒)เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติธรรมต่อการบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรมของวัดในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และ๓)เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการบริหารกิจการจัดการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรม
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับประชากรกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมของวัดในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๒๘๙ ชุด นำแบบสอบถามที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรมเป็นหน้าที่ของ เจ้าอาวาสหรือพระสังฆาธิการจะต้องปฏิบัติรับผิดชอบ เป็นธุระในการอบรม และสั่งสอนธรรมะแก่พุทธบริษัทให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติเพื่อเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีต่อไป
๒.ความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติธรรมต่อการบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรมของวัดในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พบว่าทั้ง ๔ ด้าน คือ ด้านสถานที่ในการอบรม ด้านรูปแบบการอบรม ด้านเนื้อหาสาระ และด้านวิทยากร อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยมีค่าเฉลี่ย ๔.๐๘, ๔.๑๖, ๔.๒๕, และ ๔.๒๔ ตามลำดับ
๓. แนวทางพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ด้านการอบรมการปฏิบัติธรรม ควรให้ความสำคัญกับเอาใจใส่ปรับปรุงการอบรมอย่างสม่ำเสมอ ด้านสถานที่ควรให้มีความสัปปายะ แยกที่พักกับที่ปฏิบัติให้เป็นสัดส่วน ที่ปฏิบัติสงบปราศจากสิ่งรบกวนเหมาะสำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรม เพิ่มสื่อการสอนฝึกอบรมควบคู่เข้าไปด้วย เช่น ฉายบททำวัตรด้วยโปรเจคเตอร์ ควรกำหนด เวลาทำกิจกรรมให้ชัดเจน ควรมีตารางเวลาประจำวันให้ทราบ ควรสอนตรงจุดตรงประเด็น โดยใช้ภาษาที่ฟังง่ายเหมาะสมกับชาวบ้าน เน้นสาระธรรมที่เป็นประโยชน์นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ วิทยากรควรมีน้ำใจ ยิ้มแย้ม แจ่มใส เป็นผู้มีความรู้ดีและความประพฤติดี
ดาวน์โหลด
|