การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์
(๑). เพื่อศึกษา หลักศรัทธาที่มาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเถรวาท (๒). เพื่อศึกษา การดำเนินชีวิตตามประเพณีของชาวพุทธในแขวงจำปาสัก (๓). เพื่อศึกษา การดำเนินชีวิตตามหลักศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวพุทธลาวแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว โดยใช้วิธีการศึกษาวิจัยเชิงเอกสาร และ ศึกษาวิจัยภาคสนาม เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการสร้างข้อสรุป
ผลการวิจัยพบว่า
ศรัทธาที่มาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเถรวาท คือความเชื่อ ความเชื่อถือ ความเชื่อมั่น ความเชื่อในบาปบุญ คุณโทษ เชื่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่ใช้ประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญต้องประกอบไปด้วยปัญญา มีเหตุมีผลเพียงพอที่จะเชื่อถือ ศรัทธาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ใช้จะเชื่อถือแบบขาดเหตุผล หรือปราศจากปัญญา ให้อยู่ในรูปของพระธรรมวินัยหรือเบญจศีลเบญจธรรม สิ่งเหล่านี้เรียกว่า ศรัทธาโดยแท้ และ ถูกต้องตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาในเถรวาท
การดำเนินชีวิตตามประเพณีของชาวพุทธลาวแขวงจำปาสัก มีศรัทธาความเชื่อในประเพณี และวัฒนะธรรมที่ผูกพันกับธรรมชาติ เป็นศรัทธา ความเชื่อ ผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิม การนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นับถือธรรมชาติ เข้ากับคติความเชื่อทางพุทธศาสนา และประเพณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ศรัทธาต่อประเพณีในการทำความดี ในจำนวนสิบสองเดือนในวิถีพุทธแบบชาวลาว เป็นวิธีการ กิจกรรม สำหรับการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชน เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข และได้สะท้อนให้เห็นท่วงทำนองการดำรงชีวิต โดยยึดหลักพระพุทธศาสนาเป็นศูนย์กลางในการยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ
การดำเนินชีวิตของชาวพุทธลาว แขวงจำปาสัก ได้ดำเนินตามหลักธรรมของพุทธศาสนา ปฏิบัติตามไตรสิกขาคือ ศีล สมาธิ ปัญญา หรือทาน ศีล ภาวนา และหลักของการปฏิบัติตามทางสายกลางคือ อริยมรรคมีองค์ ๘ อิทธิบาท ๔ หลักความสามัคคี และหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการ คือ ๑).การละความชั่ว ทางกาย วาจา คือรักษาศีล ๒).การประพฤติดี สร้างบุญกุศล มีความเมตตา กรุณา มีความชื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร เสียสละแบ่งปัน ๓).การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ สะอาด และได้ดำเนินตามจารีตประเพณีและวัฒนธรรม ผูกพันกับธรรมชาติ ติดพันกับพระพุทธศาสนา พึ่งพาตนเอง พึ่งพาธรรมชาติ เรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงเป็นสุข
|