การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์   เพื่อศึกษาเจตคติของผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารการศึกษาโรงเรียนวิถีพุทธ และ เพื่อเปรียบเทียบเจตคติของผู้บริหาร  ครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารการศึกษาโรงเรียนวิถีพุทธของโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริหาร ครู จำนวน  ๑๖  คน  และ  ผู้ปกครองนักเรียน      จำนวน  ๒๒๔ คน รวม  ๒๔๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean)    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) ทดสอบสมมติฐานโดย การทดสอบค่าที (t–test) สำหรับตัวแปรที่มี ๒ ค่า และทดสอบค่าเอฟ (F-test) หรือความแปรปรวนทางเดียว(One Way ANOVA) สำหรับตัวแปรที่มี ๓ ค่าขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างหลายคู่ โดยวิธีหาผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (LeastSignificant Difference : LSD)

             ผลการวิจัย พบว่า

          ๑.ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ ๖๒.๙๐ เป็นผู้ปกครองนักเรียน   ร้อยละ ๙๔.๒๐ มีอายุมากกว่า  ๔๕  ปี ร้อยละ ๔๐.๐๐  มีระดับการศึกษาระดับประถมศึกษา    ร้อยละ ๔๗.๙๒ และฐานะที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนเป็นบิดา – มารดา ร้อยละ ๖๓.๓๓

           ๒. เจตคติของผู้บริหาร  ครู และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารการศึกษาโรงเรียน    วิถีพุทธของโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ ในภาพรวม ๗ ด้านมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๑๐  และมีค่าเฉลี่ยรายด้าน ดังนี้ ด้านวิชาการ เท่ากับ ๔.๐๘  ด้านบุคลากรเท่ากับ ๔.๐๖ ด้านกิจการนักเรียน เท่ากับ ๔.๐๖   ด้านธุรการ การเงินและพัสดุ เท่ากับ ๔.๑๐ ด้านอาคารสถานที่เท่ากับ ๔.๑๓    ด้านความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนเท่ากับ ๔.๐๖ และด้านจริยธรรมคุณธรรมเท่ากับ ๔.๒๐    สรุปว่า ผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองนักเรียน มีเจตคติต่อการบริหารการศึกษาโรงเรียนวิถีพุทธ        ของโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์  ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และรายด้านอยู่ในระดับมาก ทุกด้าน

             ๓. เปรียบเทียบเจตคติของผู้บริหาร  ครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารการศึกษาโรงเรียนวิถีพุทธของโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าผู้บริหาร  ครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีอายุ มีฐานะที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนแตกต่างกัน  มีเจตคติโดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีเพศ ระดับการศึกษาแตกต่างกัน  มีเจตคติโดยรวมไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 

ดาวน์โหลด