การวิจัยเรื่องการศึกษาเรื่องการสวดมนต์ที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตพุทธศาสนิกชนในสังคมไทย : เพื่อศึกษาพุทธศาสนิกชนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายของบทสวดมนต์และความสำคัญของการสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา และเพื่อเปรียบเทียบ อายุ เพศ อาชีพ ที่มีผลต่อการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สวดมนต์ เป็นการดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้กลุ่มประชากรคือพุทธศาสนิกชนผู้มาสวดมนต์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน ๑๕๒ คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าความถี่ ร้อยละในการอธิบายข้อมูลทั่วไป และวิเคราะห์ข้อมูลระดับความคิดเห็นโดยค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ ๔๐. ๑๐ เพศหญิงร้อยละ ๕๙.๙๐ ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ผู้ที่มาสวดมนต์ที่มีอายุต่างกัน แต่มีทัศนะต่อการสวดมนต์ที่ไม่ต่างกัน การสวดมนต์มีผลต่อการปรับใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ทำให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน มีสมาธิ
พุทธศาสนิกชนผู้มาสวดมนต์ เข้าใจความหมายและความสำคัญของการสวดมนต์ได้อย่างดี และถือว่าการสาธยายธรรม ก็คือ การสาธยายพระพุทธพจน์ เป็นไปเพื่อความทรงจำให้ขึ้นใจด้วยตนเองและเพื่อการเผยแพร่พระธรรมคำสอนแก่ชนทั้งหลาย ที่สำคัญของการสวดมนต์ คือสวดธรรมเพื่อรักษาพระศาสนา นอกจากนี้ยังมีผลต่อการคุ้มครองป้องกันอันตรายด้วย ได้ความเข้าใจในเนื้อหาความหมายของการสวดมนต์อย่างดี ผลการวิเคราะห์ด้านความเชื่อ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๔.๕๑ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านคุณค่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๔.๕๔ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านอานิสงส์มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๔.๔๗ อยู่ในระดับมาก สรุปว่า การสวดมนต์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ๒ ระดับ อีกระดับหนึ่งคือด้านอานิสงส์อยู่ในระดับมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว การสวดมนต์มีจุดประสงค์ที่หลากหลาย และมีอิทธิพลที่สำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของพุทธศาสนิกชนผู้มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย และพิธีกรรมการสวดมนต์ถือว่าเป็นการธำรงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรได้ทางหนึ่ง เพราะว่าการสวดมนต์ เป็นการพรรณนาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หลังจากการสวดมนต์จะมีอานุภาพทำให้เกิดความปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงได้อย่างแน่นอน
|