งานวิจัยเรื่อง “วิเคราะห์บทบาทของพระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ในการปลูกฝังศรัทธาแก่เด็กและเยาวชน” มีจุดประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาหลักความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาบทบาทของพระสังฆาธิการในพระพุทธศาสนาเถรวาท และ ๓) เพื่อวิเคราะห์บทบาทของพระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ในการปลูกฝังศรัทธาแก่เด็กและเยาวชน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. หลักความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า ตามหลักความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเถรวาทหลักของความเชื่อหรือความศรัทธาทางพระพุทธศาสนาแบ่งได้เป็น ๒ แบบ คือ
แบบที่ ๑ เป็นศรัทธาแบบที่ถูกต้องเป็นศรัทธาที่นำไปสู่ปัญญาเกิดจากการสืบค้น สนใจและเข้าไปหาในเรื่องราวต่าง ๆ
แบบที่ ๒ เป็นศรัทธาแบบที่ผิดเป็นศรัทธาที่ปิดกั้นปัญญา ห้ามถาม ห้ามสงสัย ประพฤติปฏิบัติตามอย่างเดียว
หลักการปลูกฝังศรัทธา ได้แก่ ๑) ด้านรูปัปปมาณิกา บุคคลผู้เลื่อมใสในรูป ๒) ด้านลูขัปปมาณิกา บุคคลผู้เลื่อมใสในความเศร้าหมอง ๓) ด้านโฆสัปปมาณิกา บุคคลผู้เลื่อมใสในเสียง ๔) ด้านธัมมัปปมาณิกา บุคคลผู้เลื่อมใสในธรรม
๒. บทบาทการปลูกฝังศรัทธาของพระสังฆาธิการในพระพุทธศาสนาเถรวาทในสมัยพุทธกาลพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ามีบทบาทอย่างมากในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ บทบาทหน้าที่หลักของพระสงฆ์นั้นมี ๓ ประการ พระสงฆ์ได้ทำหน้าที่เป็นครูมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระสงฆ์ได้ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ให้ความรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพ และให้คุณธรรม คือ ความประพฤติดีปฏิบัติชอบสำหรับเป็นเครื่องอุปถัมภ์ค้ำจุนวิชาชีพของประชาชนให้เจริญรุ่งเรืองและคงอยู่ตลอดไป พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระสงฆ์ในสมัยนั้น ส่วนใหญ่จะมีบทบาทในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนโดยเข้าไปสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่ผู้นำในภูมิภาคนั้นก่อน เป็นอันดับแรก หลังจากนั้น จึงค่อยสอนธรรมแก่ผู้นำชุมชน และใช้ผู้นำเป็นฐานขยายพระพุทธศาสนาให้กว้างขวางออกไปสืบเนื่องจากการที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา พระองค์ได้จัดส่งพระสมณะทูต คือ พระโสณะเถระกับพระอุตรเถระนำพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ประเทศไทย ตามเส้นทางของชาวอินเดียเข้ามาสู่สุวรรณภูมิ ประชาชนคนไทยจึงได้รับอิทธิพลยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของตนและนับถือตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้
บทบาทของพระสงฆ์ สำหรับพระสงฆ์ไทยมีหน้าที่ และบทบาทที่ต้องรับผิดชอบซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยตรงและเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ๕ ด้าน คือ (๑) บทบาทด้านการปกครองคณะสงฆ์ (๒). บทบาทด้านการจัดการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป (๓) บทบาทด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา (๔) บทบาทด้านการก่อสร้างและการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม (๕) บทบาทด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่สังคม
๓. วิเคราะห์บทบาทของพระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตรในการปลูกฝังศรัทธาแก่เด็กและเยาวชน
พบว่า พระสังฆาธิการในอดีตมีบทบาทในการปลูกฝังศรัทธาแก่ประชาชน ๒ ด้าน ใช้วิธีปลูกฝังศรัทธาด้วยกัน ๔ วิธี สำหรับพระสังฆาธิการในเขตอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ๑๐ รูป จะมีการปลูกฝังศรัทธาโดยยึดรูปแบบหรือวิธีการปลูกฝังศรัทธาแก่เด็กและเยาวชนที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์และในโอกาสต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
|