วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อคือ (๑) เพื่อศึกษาพัฒนาการการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของคณะสงฆ์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน (๒) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ของสำนักศาสนศึกษาวัด
บูรพาภิราม และ (๓) เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการเรียนบาลีของเจ้าสำนักศาสนศึกษา ครูสอนและสามเณรผู้ศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม
ผลการศึกษาพบว่า การศึกษาพระปริยัติธรรมสมัยกรุงสุโขทัย เป็นการศึกษาจากพระไตรปิฎก ยังไม่มีระบบการจัดการศึกษาที่ชัดเจน ต่างจากสมัยอยุธยาที่มีระบบการจัดการศึกษาที่ชัดเจน สมัยล้านนาถือว่าเป็นยุคทองของการเรียนบาลี เพราะมีผลงานวรรณคดีบาลีหลายเล่ม สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ ๒ เป็นต้นมา มีการปรับเปลี่ยนระบบบาเรียนมาเป็นประโยค ๑ ถึง ๙ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้เปลี่ยนการสอบปากเปล่ามาเป็นแบบข้อเขียนการจัดการศึกษาบาลีในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนระบบการประเมินผลใหม่ โดยให้ผู้สอบประโยค ๑ – ๒ ถึง ๕ได้บางวิชา มีการสอบซ่อมภายในปีนั้นได้
การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของสำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม พบปัญหาหลัก ๒ ประการ คือ ๑) การหาเด็กและเยาวชนเข้ามาบวชเรียนได้ยาก ๒) สามเณรนักเรียนขาดความเพียรที่จะเรียนบาลี ซึ่งต่อมาสำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม ใช้วิธีประชาสัมพันธ์และสร้างแรงจูงใจจนได้เด็กเข้ามาบวชเรียนและจัดการเรียนการสอนประโยค ๑-๒-ป.ธ.๔ ส่วนครูสอนจัดนิตยภัตถวายประจำ ด้านสวัสดิการของนักเรียน เจ้าสำนักเรียนและชาวพุทธได้อุปถัมภ์ปัจจัย ๔ ดูแลเวลาอาพาธ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติของผู้บริหาร ครูและสามเณรที่มีต่อการจัดการศึกษาพระปริยัติแผนกบาลีของสำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
ด้านหลักสูตร พบว่า หลักสูตรมีความสำคัญต่อกระบวนการเรียนการสอน คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๗ สามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และมีความสำคัญต่อกระบวนการเรียนการสอน คิดเป็นร้อยละ ๒.๘, ด้านครูสอน พบว่า ครูตรงต่อเวลาสอน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๐ ควรมีโครงการพัฒนาครูสอนบาลี และมีการนำเข้าสู่บทเรียนที่เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ ๒.๘, ด้านการจัดการเรียนรู้ พบว่า ความเหมาะสมของอาคารสถานที่ คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๐ การเรียนแต่ละหัวข้อมีการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ทุกครั้ง คิดเป็นร้อยละ ๕.๖, ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๔ ควรจัดการศึกษาเป็น ๒ ภาคเรียน นักเรียนมีส่วนร่วมมีกิจกรรมน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา คิดเป็นร้อยละ ๒.๘ ด้านการวัดผลและประเมินผล พบว่า ควร มีการทดสอบความรู้พื้นฐานก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๐ ด้านสื่อการเรียนการสอน พบว่า สื่อการเรียนมีความสำคัญต่อการเรียนการสอน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๐ สื่อที่ใช้ไม่มีความทันสมัยและสอดคล้องกับเรื่องที่สอน และการเรียนบาลีไม่เหมาะกับการใช้สื่อ คิดเป็นร้อยละ ๒.๘, ด้านคุณค่าของการศึกษา พบว่า การศึกษาบาลีทำให้รักษาพระพุทธศาสนาไว้ ได้คิดเป็นร้อยละ ๕๘.๓ การศึกษาบาลีทำให้มีความรู้ในหลักภาษาไทยได้ดี มีการส่งเสริมให้เห็นคุณค่าการเรียนบาลี และทำให้มีความรอบคอบ คิดเป็นร้อยละ ๒.๘
ส่วนผลการวิเคราะห์เชิงพรรณนาวิธีความคิดเห็นและเสนอแนะของผู้บริหาร ครูและสามเณรนักเรียนต่อการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกของบาลีนั้น ดังนี้
ด้านหลักสูตร พบว่า หลักสูตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันควรมีการปรับภาษา มีเนื้อหากระชับและมีภาพประกอบ มีสื่อการสอนทุกระดับชั้น, ด้านครูสอน พบว่า ครูต้องมีความรู้ดีมีวิธีการสอนที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจมากกว่านี้สามารถประยุกต์การสอนกับศาสตร์สมัยใหม่เช่น มีจิตวิทยาในการสอน ด้านการจัดการเรียนรู้ พบว่า มีบรรยากาศดีเป็นกันเอง แต่ควรให้มีการทำกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลาย คณะสงฆ์ผู้ดูแลในส่วนนี้ควรส่งเสริมให้มีการผลิตสื่อการสอน ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ต้องการให้มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการเรียน ด้านการประเมินผล พบว่า ควรมีการปรับปรุง ข้อสอบเป็นแบบปรนัยและมีคะแนนเก็บ สามารถนำไปรวมผลข้อสอบสนามหลวงได้, ด้านสื่อการเรียนการสอน พบว่าควรมีการจัดงบประมาณส่งเสริมการผลิตสื่อที่เหมาะสม ด้านคุณค่าของการศึกษาบาลี พบว่า การเรียนบาลีเป็นการรักษาพระพุทธพจน์ ทำให้ผู้เรียนมีจิตใจมั่นคง เกิดความซาบซึ้งในหลักธรรม สามารถนำไปปฏิบัติและเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบต่อไป
|