วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ (๑) ศึกษาแนวคิดและความเชื่อเรื่องผี ที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา (๒) ศึกษาความเชื่อเรื่องผีในทัศนะร่วมสมัย (๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์อิทธิพลความเชื่อเรื่องผีปอบที่มีความสัมพันธ์กับพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ของบ้านดอนยานาง จังหวัดกาฬสินธุ์
ผลการศึกษาคัมภีร์พระพุทธศาสนาพบว่า ในพระพุทธศาสนานั้นก็มิได้ปฏิเสธอมนุษย์ (ผี) เช่น เมื่อเกิดภัย ๓ อย่างในเมืองไพศาลี หนึ่งในนั้น คือ ภัยเกิดจากอมนุษย์ (ผี) ในครั้งนั้น พระพุทธเจ้าได้ให้พระอานนท์เรียนรัตนสูตรแล้วสวดพระปริตร ทำให้อมนุษย์ทั้งหลายหนีไปหมด และพระผู้มีพระภาคได้รับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เรื่องอันตราย ๑๐ ประการ ของพระภิกษุ หนึ่งในนั้น คือ ผีเข้าสิงภิกษุ เราอนุญาตให้ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงโดยย่อ โดยพระพุทธศาสนามีท่าทีหรือสอนให้มนุษย์ปฏิบัติต่อผีอย่างเหมาะสม ด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผีหรือผู้ที่จากไป และตามที่ปรากฏในรัตนสูตร, เมตตสูตร, ปัพพชิตอภิณหสูตร, ธรรมบท, เรื่องไตรภูมิ และพระสูตรอื่นๆ
ตามหลักการพระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่องกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เรามีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม และความเชื่อต้องประกอบด้วยปัญญา ศรัทธา ๔ ประการ คือ (๑) กัมมสัทธา เชื่อกฎแห่งกรรม (๒) วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม (๓) กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของของตน (๔) ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าโดยกรรมเป็นทางนำสัตว์ไปเกิดใน ๓ ภูมิ คือ กามภูมิ รูปภูมิ และ อรูปภูมิ
โดยภาคอีสานนำเอามูลเหตุที่เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนามาประยุกต์เข้ากับความเชื่อเรื่องผีเดิมเป็นประเพณีฮีตสิบสองในการประกอบการทำบุญทั้งสิบสองเดือน สำหรับผู้หวังมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ หรือนิพพานในอนาคต
ความเชื่อเรื่องผีของคนไทยมีการจัดประเภทผีทั่วไป ไว้มากมาย เช่น ผีบรรพบุรุษรุกเทวดา ผีปอบ ผีแม่นาคพระโขนง และผีอื่นๆ เชื่อว่ามีผีให้คุณให้โทษ และยังเป็นการแสดงเคารพกตัญญูต่อผีบรรพบุรุษทำให้คนไม่กล้าทำผิดเป็นการควบคุมความประพฤติบุคคลโดยทางอ้อม
การประกอบพิธีฮีตสิบสองหมู่บ้านดอนยานาง จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเพณีสิบสองเดือนเป็นการประกอบงานบุญเช่นงานวันสงกรานต์แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผีบรรพบุรุษและการทำบุญซำฮะที่ศาลากลางหมู่บ้านนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาทำพิธีปัดรังควานขับไล่สิ่งไม่ดีให้ออกไปพ้นเขตหมู่บ้าน
ความเชื่อเรื่องผีปอบและผีอื่น ๆ ที่มีต่อพิธีกรรมของชาวบ้าน ดังนี้
๑. พิธีขึ้นบ้านใหม่ มีการสวดถอนโดยนำเอาแบบอย่างการสร้างพระอุโบสถ์ และนิมนต์พระสงฆ์มาค้างคืน เพื่อให้พระสงฆ์ทำกิจของสงฆ์ คือ สวดมนต์เช้า-เย็น เพื่อให้เป็นสิริมงคล ถือว่าเป็นการขับไล่เสนียดจัญไร หมายถึง ภูตผี วิญญาณร้ายต่างๆ รวมทั้งผีปอบ
๒. พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ ทำให้สำหรับคนป่วยหรือผู้ที่หายป่วย เช่น การแต่งแก้ เสียเคราะห์ เพื่อให้ผู้ป่วยหายโรคภัยและปัดรังควานขับไล่สิ่งชั่วร้าย เช่น ภูตผีต่างๆ รวมทั้งผีปอบด้วย
๓. พิธีกรรมสู่ขวัญ เมื่อเกิดการเสียขวัญ เช่น การเจ็บป่วยนานๆ ดีใจหรือตกใจเสียใจขวัญหนีไปอยู่ที่ต่างๆ ผีปอบและผีต่าง ๆ จับไว้ไม่ให้ขวัญกลับมา จึงทำพิธีเรียกขวัญกลับมาอยู่ที่กาย
ความเชื่อเรื่องผีปอบที่มีต่อพิธีกรรมเซียงข้องภาคอีสานและของชาวบ้านดอนยานาง จังหวัดกาฬสินธุ์ การประกอบพิธีกรรมเซียงข้องภาคอีสาน เป็นการใช้ค้นหาหรือติดตามสิ่งของที่หาย หรือจับขโมย หรือใช้ปราบสิ่งชั่วรายและเป็นการปัดรังควาน เช่น ผีปอบ ให้ออกจากหมู่บ้าน เซียงข้อง จะช่วยตามหาเจ้าของผีปอบว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน เซียงข้องมีสามประเภท คือ (๑) เชียงข้อง ขจ้ำ(ผีบรรพบุรุษ) สิงเข้าเซียงข้อง (๒) เซียงข้องเทวดา (๓) เซียงข้องวิชาอาคมการประกอบพิธีรักษาหมู่บ้าน ของหมู่บ้านดอนยานาง พระครูประสุต ธรรมสุนทรทำพิธีกรรมการเข้าทรง และทำพิธีปลุกเสกไม้ทศกัณฐ์และคนจับไม้ทศกัณฑ์เพื่อไล่จับผีปอบ
ความเชื่อเรื่องผีปอบและผีอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา (๑) การสวดภาณยักษ์ (๒) พิธีกรรมทำน้ำพระพุทธมนต์ (๓) การสวดพระปริตร
พิธีกรรมตามคัมภีร์อาถรรพณ์เวทย์ของพราหมณ์ พวกอารยันได้เขียนคัมภีร์ไว้ แบ่งเป็น ๘ ประเภท โดยเฉพาะคัมภีร์ที่ ๖ เกี่ยวกับไสยศาสตร์ที่ใช้ภูตผีปีศาจทำอันตรายผู้ที่เป็นศัตรู ส่วนคัมภีร์ที่ ๗ เป็นพระเวทย์แก้ภูตผีปีศาจ เรียนปลุกเสกสิ่งของเพื่อขับไล่ผี
|