หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระกิตติ กิตฺติสาโร (ศรีวรษา)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๗ ครั้ง
การศึกษาแนวคิดของพระสังฆาธิการในเขต ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ดที่มีต่อการรักษาโรคในพระพุทธศาสนา
ชื่อผู้วิจัย : พระกิตติ กิตฺติสาโร (ศรีวรษา) ข้อมูลวันที่ : ๒๖/๐๗/๒๐๑๕
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาประมวล ฐานทตฺโต
  ประยูร แสงใส
  โสวิทย์ บำรุงภักดิ์
วันสำเร็จการศึกษา : 2556
 
บทคัดย่อ

              การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาโรคตามที่ปรากฎในคัมภีร์พระพุทธศาสนา  เพื่อศึกษาพุทธวิธีรักษาโรคตามแนวทางพระพุทธศาสนา และ เพื่อศึกษาแนวคิดของพระสังฆาธิการในเขต ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีต่อการรักษาโรคในพระพุทธศาสนา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพมีการศึกษาภาคสนาม (Field Work) สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายแล้วนำมาวิเคราะห์ประกอบวิทยานิพนธ์ให้สมบูรณ์

ผลการวิจัยพบว่าโรคตามที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ในพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงโรคไว้เป็น ๒ ประเภท คือ (๑) โรคทางกาย ได้แก่ โรคที่เกิดขึ้นกับอวัยวะในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและความไม่สมดุลของธาตุทั้ง ๔ โรคบางอย่างไม่ได้บอกวิธีการรักษาไว้ เช่น โรคลมบ้าหมู โรคหืด แต่โรคบางอย่างบอกชื่อและวิธีการรักษาไว้ ได้แก่ โรคริดสีดวงทวาร โรคท้องร่วง เป็นต้น (๒) โรคทางใจได้แก่ โรคที่ถูกครอบงำด้วยอุปกิเลสอาสวะ คือ ความโลภ ความโกรธ ความเสียใจ  และความหลง ที่เกิดจากการพลัดพรากจากของที่รักที่ชอบใจ ความคับแค้นใจ และความเจ็บป่วยทางกายจนทำให้เกิดความทุกข์ทางใจ

ในพระพุทธศาสนามีหลักในการรักษาโรคที่เกิดจากการเจ็บป่วยอยู่ ๒ แนวทาง คือ การรักษาด้วยยาสมุนไพรที่ประกอบด้วย ใบไม้ รากไม้ ผลไม้ ยางไม้ และน้ำฝาด เป็นสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคทางกายนอกจากนี้ก็มีการรักษาด้วยน้ำมูตรเน่า คือ การดื่มน้ำปัสสาวะของตนเองโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคผอมเหลือง (ดีซ่าน) สามารถรักษาด้วยน้ำปัสสาวะได้ ส่วนการรักษาโรคทางใจ ซึ่งส่วนมากมักจะใช้รักษาผู้ที่มีอาการเศร้าโศกเสียใจอันเนื่องมาจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักการหวาดระแวง มีความวิตกกังวลต้องใช้การรักษาโดยการใช้สมาธิบำบัด หรือธรรมโอสถด้วยการปฏิบัติกรรมฐาน เจริญจิตภาวนาการเดินจงกรม การเดินบิณฑบาตเป็นการออกกำลังกายที่ต้องมีสติในการเดิน เป็นการฝึกการทรงตัวซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายได้กำลังทั้งส่วนท้องส่วนอกและต้นขาเป็นวิธีออกกำลังกายที่ทำให้สุขภาพแข็งแรง

ส่วนพระสังฆาธิการในเขตตำบลป่าสังข์มีแนวคิดต่อการรักษาโรคในทางพระพุทธศาสนาว่าส่วนมากได้คัดเอาเฉพาะการรักษาโรคด้วยวิธีการเดินจงกรมการทำสมาธิและการรักษาด้วยสมุนไพรทำให้ประชาชนในชุมชนมีความเห็นว่าการรักษาแบบพระพุทธศาสนาเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระทางสังคมจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าการรักษาแบบพุทธศาสนามีผลทำให้คนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและส่งผลทำให้สุขภาพจิตดีด้วย

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕