การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ๑) เพื่อศึกษาบทบาทพระสังฆาธิการในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ๒) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของพระสังฆาธิการในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ๓) เพื่อศึกษาแนวทางในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ของพระสังฆาธิการ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมโดยการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณประชากรได้แก่ พระสังฆาธิการ จำนวน ๒๒๔ รูป เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๗ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแล้วนำมาวิเคราะห์ขิอมูลด้วยการพรรณาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า
บทบาทพระสังฆาธิการในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล เป็นแนวทางสำคัญในการจัดระเบียบให้กับวัดและชุมชน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีความรู้รักสามัคคีและร่วมกันเป็นพลัง ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนเสริมความเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อบรรเทาป้องกันหรือแก้ไขเยียวยาภาวะวิกฤติ ภยันตรายที่หากจะมีมาในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นในวัดและเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เพราะสังคมจะรู้สึกถึงความยุติธรรม ความโปร่งใส และความมีส่วนร่วม อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สอดคล้องกับความเป็นไทย รัฐธรรมนูญ และกระแสโลกยุคปัจจุบัน การส่งเสริมให้เกิดการสร้างธรรมาภิบาลนั้น มาจากความร่วมมือของทั้งวัด และชุมชนรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สภาพปัญหาและบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ๑. หลักนิติธรรม พระสงฆ์นั้นเป็นบุคลของส่วนรวมเป็นผู้ที่ไม่สามารถจะกระทำตามใจตัวเองได้และพระสงฆ์ถือกฎหมายทั้งสองด้านคือทั้งทางพระวินัยและกฎหมายทางบ้านเมืองเผยแผ่ด้วยความถูกต้องปัญหาในด้านการสื่อสารในหมู่คณะสงฆ์ ๒. หลักคุณธรรม คุณธรรมเป็นสิ่งที่ต้องมีในเผยแผ่ เมื่อมีคุณธรรมเกิดขึ้นการเผยแผ่ก็เป็นไปด้วยดีใช้หลักในการเผยแผ่ให้ถูกกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขาดความรู้ความเชี่ยวชาญในการนำไปใช้ ผู้ปฏิบัติไม่มีแบบแผนในการปฏิบัติ ๓. หลักความโปร่งใส ไม่สามัคคีเป็นส่วนที่ทำให้การบริหารไม่สำเร็จและเกิดการแตกร้าวในหมู่คณะ ๔. หลักการมีส่วนร่วม พระสงฆ์นั้นมีส่วนร่วมกับสังคมงานที่จะกระทำนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่และเวลาด้วย ๕. หลักความรับผิดชอบมอบหมายงานทำงานตามหน้าที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จตามหน้าที่รับผิดชอบ ๖. หลักความคุ้มค่ามีการกระจายงานให้ทำตามความถนัด เพื่อความคุ้มค่าและประโยชน์อันพึงจะได้รับซ้ำซ้อน ที่ไม่มีแบบแผน เผยแผ่โดยไม่มีหลักการไม่ถนัดในงานที่ทำ
แนวทางในการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ของพระสังฆาธิการ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด การบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาลนั้นต้องอาศัยหลักการมีเหตุผลและมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับวัดควรให้เจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารวัดโดยใช้หลักธรรมาภิบาล เพราะถือว่าทั้งสองฝ่ายเป็นผู้นำในการบริหารวัดและหมู่บ้านให้มีการบริหารจัดการได้อย่างมีระบบควรมีการพัฒนาการศึกษาของพระสงฆ์และสามเณร โดยนำหลักธรรมาภิบาลเข้ามาใช้เพื่อพระสงฆ์ และสามเณรได้รับการศึกษาที่สูงขึ้นไป และสนับสุนนเกี่ยวสาธารณูปโภคในเรื่องการรักษาพยาบาลเวลาพระสงฆ์ และสามเณร ด้วยการตั้งกองทุนไว้สำหรับสนับสนุน
|