งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ตามหลักคำสอนเรื่องทิศ๖ในสิงคาลกสูตรและเพื่อศึกษาสภาพจริงของพฤติกรรมที่ครูและนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในเขตอำเภอเมืองแพร่ได้แสดงความสัมพันธ์ต่อกันและศึกษาเปรียบเทียบสภาพที่มีการปฏิบัติจริงกับสภาพในเชิงอุดมคติที่ปรากฏในหลักคำสอนเรื่องทิศ๖ในสิงคาลกสูตร โดยใช้วิธีการวิจัยเอกสารร่วมกับการวิจัยโดยการสำรวจ โดยใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นและครูนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในเขตอำเภอเมืองแพร่จำนวน ๔๘๘ คน
ผลการศึกษาพบว่า ความสัมพันธ์ของศิษย์กับครูตามหลักคำสอนเรื่องทิศ ๖ในสิงคาลกสูตรนั้น ศิษย์พึงปฏิบัติต่อครูด้วย ๕ ลักษณะดังนี้คือ ๑) ลุกขึ้นยืนรับ ๒)เข้าไปคอยรับใช้ ๓) เชื่อฟังคำแนะนำสั่งสอน ๔) ดูแลปรนนิบัติ ๕) ด้านการเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพส่วนความสัมพันธ์ของครูกับศิษย์ตามหลักคำสอนเรื่องทิศ ๖ในสิงคาลกสูตรนั้นครูจะพึงอนุเคราะห์ศิษย์ด้วย ๕ ลักษณะดังนี้คือ ๑) แนะนำให้เป็นคนดี ๒) ให้เรียนดี ๓) บอกความรู้ในศิลปวิทยา ทุกอย่างด้วยดี ๔) ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง ๕) ทำการป้องกันในทิศทั้งปวง
ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อสภาพความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ใน ๕ ด้านพบว่า ด้านครูอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยการให้เรียนดี ด้วยทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย ด้วยการแนะนำดี ด้วยการยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูงและการสอนศิษย์ด้วยดีในศิลปวิทยาทั้งหมด นั้น ในภาพรวมและรายด้าน มีการแสดงออกอยู่ในระดับมากทุกด้านส่วนความคิดเห็นของครูที่มีต่อสภาพความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับครูทั้ง ๕ ด้านคือ ด้านศิษย์พึงปฏิบัติต่อครูด้วยการลุกขึ้นยืนต้อนรับโดยความเคารพ และด้วยการเชื่อฟังคำสั่งสอน พบว่าอยู่ในระดับมาก และในด้านการช่วยทำกิจธุระการเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพและการปรนนิบัติช่วยบริการตามลำดับ พบว่าอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อมองในภาพรวมแล้วมีการแสดงออกอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อมองโดยภาพรวมทุก ๆด้านแล้วจะเห็นได้ว่า ครูมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของศิษย์ทุกด้านแบบเป็นกลาง ส่วนศิษย์มีความคิดเห็นต่อครูในระดับมากทุกด้าน
ผลการศึกษาเปรียบเทียบสภาพความสัมพันธ์ของครูกับศิษย์ในสภาพปัจจุบันกับในสภาพเชิงอุดมคติตามหลักคำสอนเรื่องทิศ ๖ในสิงคาลกสูตร พบว่า สภาพความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ในด้านต่าง ๆทั้ง ๕ ด้าน ทุก ๆ ด้านนั้นมีความสอดคล้องกันแต่จะลึกซึ้งกว่าในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเป็นบริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่นในอดีตนักเรียนผู้เป็นศิษย์ต้องไปฝากตัวปรนนิบัติรับใช้อาศรัยอยู่ร่วมกันในสำนักของครูอาจารย์ แต่ในปัจจุบันครูและนักเรียนจะมีความสัมพันธ์ต่อกันก็เฉพาะในโรงเรียนตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครูและนักเรียน
|