หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาสมศักดิ์ สติสมฺปนฺโน (สินนา)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๔ ครั้ง
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาล ตำบลโนนหวาย อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี (รัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาสมศักดิ์ สติสมฺปนฺโน (สินนา) ข้อมูลวันที่ : ๒๒/๑๒/๒๐๑๔
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ผศ.ดร.ชาญชัย ฮวดศรี
  ดร.ปัญญา คล้ายเดช
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑ ธันวาคม ๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  (๑)  เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม  (๒)  เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  (๓)  เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  (๔)  เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed  Method)  โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative  Research) ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey  Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative  Research) โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth  Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants)  ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล  คือ  แบบสอบถาม  และแบบสัมภาษณ์  โดยแจกแบบสอบถามให้กับกลุ่มตัวอย่าง  จำนวน  ๓๔๔  คน  โดยทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ในส่วนแบบสัมภาษณ์ได้นำไปสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน  ๕  คน  โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling)  แล้วจึงนำมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์  โดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of variance) และ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่โดยวิธีผลต่างนัยสำคัญที่น้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD.)  

ผลการวิจัยพบว่า
๑.  ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง  จำนวน  ๑๙๑  คน  คิดเป็นร้อยละ  ๕๕.๕  มีอายุตั้งแต่  ๔๑  ปีขึ้นไป  จำนวน  ๑๕๘  คน  คิดเป็นร้อยละ  ๔๕.๙  มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี  จำนวน ๒๖๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๗.๙  มีอาชีพเกษตรกร  จำนวน  ๑๘๙  คน คิดเป็นร้อยละ  ๔๕.๙
๒.  การมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี  โดยรวม  อยู่ในระดับปานกลาง ( =๓.๐๐)  เมื่อพิจารณาในรายด้าน  พบว่า  การมีส่วนร่วมของประชาชนอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน  โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้  ด้านการตัดสินใจ,  ด้านการวางแผนการบริหารงาน,  ด้านการร่วมรับผลประโยชน์,  ด้านการติดตามและประเมินผล  ตามลำดับ
๓.  ประชาชนที่มี  เพศ  การศึกษา  และอาชีพ  ต่างกัน  มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  โดยรวมแตกต่างกัน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่  ๐.๐๕  จึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  ส่วนประชาชนที่มี  อายุ  ต่างกัน   มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  โดยรวมไม่แตกต่างกัน  จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
๔. แนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลโนนหวาย  อำเภอหนองวัวซอ  จังหวัดอุดรธานี  มีดังต่อไปนี้
๑)  ด้านการตัดสินใจ  เปิดโอกาสให้ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านเข้ามาเสนอปัญหาต่างๆ  เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็เชิญผู้นำหมู่บ้าน  คณะกรรมการหมู่บ้าน  มาร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกับทางเทศบาล  ก่อนที่จะทำโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ  จะต้องประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ
๒)  ด้านการวางแผนการบริหารงาน  เทศบาลจะมีการออกประชาคมเพื่อรับฟังปัญหา  อุปสรรค  และข้อเสนอแนะของประชาชนเพื่อบรรจุเป็นแผนพัฒนา การบริหารงานของเทศบาลที่เกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นประชาชนต้องมีส่วนร่วมทุกกิจกรรม  
๓)  ด้านการร่วมรับผลประโยชน์  เทศบาลก็จะจัดงบประมาณค่าตอบแทน  เงินรางวัล  มีการเชิดชูประชาชนที่เสียสละเพื่อส่วนรวม  มีนโยบายจัดพื้นที่พักผ่อนให้ประชาชนแต่ละหมู่บ้าน  ประชาชนทุกคนในเขตเทศบาลตำบลโนนหวาย  ควรได้รับสิทธินี้เท่าเทียมกัน  
๔)  ด้านการติดตามและประเมินผล  แต่งตั้งกรรมการติดตามการดำเนินงานของเทศบาล  การจัดตั้งประชาคม  ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานของเทศบาล  และได้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ข่าวสารในทุกหมู่บ้าน 

ดาวน์โหลด



 
 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕