การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาวิธีการเจริญสติของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ๒) เพื่อศึกษาวิธี กับการเจริญสติของท่านติช นัท ฮันห์ และ ๓) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบวิธีการเจริญสติของพ่อเทียน จิตฺตสุโภ กับการเจริญสติของท่านติช นัท ฮันห์
ผลการวิจัยพบว่าการเจริญสติในความหมายของพระพุทธศาสนาเถรวาทกับพระพุทธ-ศาสนามหายาน มีนัยเหมือนกันคือการฝึกสติให้ระลึกรู้อยู่กับปัจจุบันขณะ ที่บังเกิดอยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม อันเป็นคุณเครื่องให้กุศลจิตเจริญ ยับยั้งอกุศลจิต มีเป้าหมายเพื่อความสุขในชีวิตทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตระ ส่วนมหายานมุ่งหมายถึงการปลูกฝังโพธิจิตเข้าด้วย
แนวคิดเรื่องการเจริญสติในมุมมองของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ และท่านติช นัท ฮันห์ มีนัยที่เหมือนกัน คือการเจริญสติเพื่อควบคุมจิตใจที่คิดปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา หรือการอยู่เหนือจิตให้พ้นจากโลภะ โทสะ โมหะ เพื่อเข้าสู่ความพ้นจากทุกข์ และบรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธ-ศาสนา
วิธีการเจริญสติของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ กับท่านติช นัท ฮันห์ มีนัยที่คล้ายคลึงกัน คือการใช้สติกำกับพฤติกรรมของตนเอง ให้รู้อยู่กับปัจจุบันขณะ ทั้งอิริยาบถใหญ่ และอิริยาบถย่อยทุกอย่าง หมายถึง การไม่ละสติที่เป็นไปในกายของตนเองทุกขณะ มีวิธีการสร้างรูปแบบการปฏิบัติต่างกัน โดยหลวงพ่อเทียนเน้นการใช้สติจับความเคลื่อนไหวไม่เน้นคำบริกรรม ส่วนท่านติช นัท ฮันห์ เน้นรูปแบบปฏิบัติที่ใช้อุปกรณ์ภายนอกช่วย เช่น ใช้เสียงในการบริกรรม กล่าวโศลก บทกลอน สวดมนต์ หรือกระทั่งการใช้เสียงดนตรี เสียงระฆังเป็นตัวช่วยในการเร้าสติให้อยู่กับตน
การเจริญสติของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ กับท่านติช นัท ฮันห์ มีเป้าประสงค์เหมือนกัน คือการใช้สติกำหนดอยู่กับปัจจุบันขณะ มุ่งควบคุมจิตเพื่อให้ปราศจากความทุกข์ และการอยู่เหนือความทุกข์อันเป็นเป้าหมายสูงสุด คือการเข้าถึงพระนิพพาน หรือการหมดสิ้นจากกิเลสอาสวะทั้งมวลนั่นเอง
|