การวิจัยครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาโรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาจำแนกตามสถานภาพของนักเรียน ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไขการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาโรงเรียนคำเตยโรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๒ (จังหวัดนครพนม - มุกดาหาร) และ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน ๑๖๗ คน ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบ ค่าที (t-test) เปรียบเทียบความแปรปรวนทางเดียว (One-way analysis of variance)
ผลวิจัยพบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาโรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ โดยภาพรวม เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก ทุกด้าน คือ ด้านการวัดและประเมินผล ด้านกิจกรรมการเรียน ด้านเนื้อหาการเรียน ด้านกระบวนการเรียน และ ด้านสื่อการเรียน
ผลเปรียบเทียบ ความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาโรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ จำแนกตามสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม นักเรียนมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ สองด้านคือ ด้านอายุ และเพศ ส่วนการเปรียบเทียบ ระดับชั้นเรียน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐๐๕ สอดคล้องตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
ข้อเสนอแนะ แนวทางการการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์ ด้านเนื้อหาการเรียน อยากให้ครูอธิบายเพิ่มเติมขยายความยกตัวอย่างประกอบด้านเนื้อหาเพิ่ม ด้านกระบวนการเรียน อยากให้ครูแจ้งให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับการจัดแผนการเรียนก่อนจัดการเรียนการสอนที่ชัดเจน ด้านสื่อการเรียน อยากได้หนังสือแบบเรียนเกี่ยวกับวิชาพระพุทธศาสนาเพิ่ม และ อยากให้ครูใช้สื่อช่วยสอนเช่นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการจัดการเรียนการสอน ด้านกิจกรรมการเรียน อยากให้มีกิจกรรมร่วมกับชุมชนที่จัดนอกห้องเรียนเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการเรียน อยากให้มีการประยุคหลักธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก ด้านการวัดและประเมินผล คือ อยากให้ครูแจ้งผลการวัดและประเมินผลเป็นระยะ
|