การศึกษาวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อวิเคราะห์วิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนาเถรวาทซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยข้อมูลทางเอกสาร โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ คือ ๑) เพื่อศึกษาแนวคิดและวิธีการโพธิสัตวมรรคในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า ๒) เพื่อศึกษาวิธีการและนำเสนอรูปแบบองค์รวมองค์ความรู้ทั้งระบบครบวงจรของพุทธภูมิการตรัสรู้ในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า ๓) เพื่อวิเคราะห์เชิงแคบและลึกในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า
ผลของการศึกษาวิจัยพบว่า มนุษย์ปุถุชนสามารถฝึกฝนพัฒนาให้ถึงขั้นสูงสุดเป็นพระพุทธเจ้าได้ โดยพบว่ามีแนวคิดการสั่งสมบารมีในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า ๔๐ แนวคิดและมีวิธีการสั่งสมบารมีหลายวิธี หากเมื่อมนุษย์ผู้นั้นตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องตั้งมโนปณิธาน วจีปณิธาน และกายวจีปณิธาน พร้อมกับสั่งสมทำความดีเป็นพระอนิยตโพธิสัตว์ที่ยังไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอนว่าจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้และต้องสั่งสมบารมีเพิ่มโดยทำ ธรรมสโมธาน ๘ อันเปรียบเสมือนประดุจยานพาหนะนำพาพระอนิยตโพธิสัตว์ ไปสู่ ความเป็นพระนิยตโพธิสัตว์ ให้สมบูรณ์แล้วได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ว่าจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนในอนาคตกาล ในกรณีของ สุเมธดาบส ได้พบ และ รับพุทธพยากรณ์ ครั้งแรกจากพระทีปังกรพุทธเจ้า และ ครั้งสุดท้าย ครั้งที่ ๒๔ จากพระกัสสปพุทธเจ้าว่าจะตรัสรู้เป็นพระโคตมพุทธเจ้าในอนาคต
องค์ความรู้ในรูปแบบองค์รวมทั้งระบบครบวงจรของพุทธภูมิการตรัสรู้ในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าที่พระนิยตโพธิสัตว์ ๓ ประเภท ต้องสั่งสมบารมี ๑๐ ใน ๓ ระดับ หรือเรียกว่า บารมี ๓๐ ทัศอันเปรียบเสมือนประดุจยานพาหนะนำพาพระนิยตโพธิสัตว์ไปสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า ให้สมบูรณ์จึงสามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ๓ ประเภทใน ๓ รูปแบบ ได้แก่ ๑) รูปแบบที่ ๑ : อุคฆฏิตัญญูโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ประเภทมีอินทรียธรรม แบบปัญญามากกว่าศรัทธา ใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีช่วงมโนปณิธาน วจีปณิธาน กายวจีปณิธาน จนถึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า รวม ๒๐ อสงไขยหนึ่งแสนมหากัปได้พบพระพุทธเจ้าในอดีตรวม ๕๑๒,๐๒๗ พระองค์ พระโพธิสัตว์ประเภทนี้เมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว มีชื่อเรียกว่า พระปัญญาธิกพุทธเจ้า ๒) รูปแบบที่ ๒ : วิปจิตัญญูโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ประเภทมีอินทรียธรรม แบบศรัทธามากกว่าปัญญา ใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีช่วงมโนปณิธาน วจีปณิธาน กายวจีปณิธาน รวม ๔๐ อสงไขยแสนมหากัป ได้พบพระพุทธเจ้าในอดีตรวม ๑,๐๒๔,๐๕๕ พระองค์ เมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว มีชื่อเรียกว่า พระสัทธาธิกพุทธจ้า ๓) รูปแบบที่ ๓ : ไนยโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ประเภทมีอินทรียธรรม แบบวิริยะ(ความเพียร)มากกว่าปัญญา ใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีช่วงมโนปณิธาน วจีปณิธาน กายวจีปณิธาน รวม ๘๐ อสงไขยหนึ่งแสนมหากัป ได้พบพระพุทธเจ้าในอดีตรวม ๒,๐๔๘,๑๐๙ พระองค์ เมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว มีชื่อเรียกว่า พระวิริยาธิกพุทธเจ้า
ความเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้นมี คุณสมบัติเฉพาะ ๑๓ ประการ และคุณลักษณะเฉพาะ ๑๑ ประการครบซึ่งพระอรหันต์สาวกทั่วไปมีไม่ครบ เช่น การเป็นผู้ตรัสรู้เองได้โดยชอบด้วยพระองค์เองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม ต้องเคยบำเพ็ญพุทธการกธรรม ๑๐ มีทศพลญาณ มีฉฬาสาธารณญาณ ๖ ความเป็นผู้มีมหาปุริสลักษณะ ๓๒ และอนุพยัญชนะ ๘๐ มีนิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธองค์ในพระพุทธศาสนา
อนึ่ง ธรรมที่เป็นเหตุให้พระพุทธองค์บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ เรียกว่า “อุปัญญาตธรรม๒” อันเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ทรงปฏิบัติเห็นคุณค่าประจักษ์กับพระองค์เอง มี ๒ ประการ คือ ๑) ความไม่สันโดษในกุศลธรรม และ ๒) มีการบำเพ็ญเพียรไม่ระย่อ
การวิเคราะห์เชิงแคบและลึก ในวิถีสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๖ ประเด็นสำคัญที่จำเป็นต้องทำให้ได้จึงจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ตามขอบเขตการวิจัย ดังนี้ ๑) พระพุทธเจ้าต้องเป็นผู้ชายและอดีตต้องได้เคยรับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ๒) พระพุทธเจ้าต้องอุบัติและตรัสรู้ในชมพูทวีปและต้องเป็นตระกูลกษัตริย์หรือพราหมณ์เท่านั้น ๓) พระพุทธเจ้ามีเพียงคราวละหนึ่งพระองค์เท่านั้น ๔) การตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในตอนแรกเป็นแบบในใจ (มโนปณิธาน) ต่อมาเป็นแบบ วจีปณิธาน และกายวจีปณิธาน ตามลำดับ ๕) การจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ในอดีตต้องเคยสั่งสมบารมี ๑๐ ใน ๓ ระดับ (= ๓๐ ทัศ) และใช้ระยะเวลานานนับหลายอสงไขยกัป ๖) การจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ในอดีตต้องเคยบริจาค บุตร ธิดา และภรรยา เพื่อสั่งสมบารมี ๓๐ ทัศให้สมบูรณ์
ดาวน์โหลด (ยังไม่มีข้อมูล)
|