บทคัดย่อ
งานการวิจัยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาอุโบสถศีลในพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาวิธีการรักษาอุโบสถศีลของชาวพุทธบ้านโนนเมือง และเพื่อวิเคราะห์ผลของการรักษาอุโบสถศีลที่นำไปพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาภาคสนาม (Field work) นำบทสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ประกอบวิทยานิพนธ์ให้สมบูรณ์
ผลการวิจัยพบว่า อุโบสถศีล เป็นการสมาทานข้อวัตรปฏิบัติในวันอุโบสถ คือวันพระในวันข้างขึ้น - ข้างแรม ๘,๑๔,๑๕ ค่ำ ศีล ๘ ที่รักษาในวันอุโบสถ เรียกว่า อุโบสถศีล ส่วนศีล ๘ ที่รักษาในวันปกติเรียกว่า ศีล ๘ หรืออัฏฐศีล อุโบสถศีลมีความสำคัญมากในฐานเป็นเครื่องมือกำจัดกิเลสอย่างหยาบ เพราะเป็นศีลที่พุทธศาสนิกชนควรรักษาในวันพระนับเวลาวันหนึ่งและคืนหนึ่ง เป็นการประพฤติพรหมจรรย์พักชีวิตตามปกติไว้ชั่วคราวมาดำเนินชีวิตในทางธรรม เพื่อเสริมสร้างมนุษย์ให้บรรลุจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา ตลอดจนเสริมสร้างสังคมให้สงบสุข
การรักษาอุโบสถศีลของชาวบ้านโนนเมือง ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาอุโบสถศีล อันเป็นศีลที่พิเศษของฆราวาสผู้ครองเรือน ทั้งในเรื่องของวันที่กำหนดให้เป็นวันอุโบสถ และข้อวัตรปฏิบัติที่ละเอียดอ่อน ในปัจจุบันอุบาสกอุบาสิกานิยมมารักษาอุโบสถศีลที่วัดมากกว่าการรักษาที่บ้าน เพราะการมาที่วัดทำให้ผู้รักษาศีลได้ทำบุญด้วย มีการให้ทาน ฟังธรรม และปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานได้ดีกว่าทำที่บ้าน อันเป็นการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้ได้รับอานิสงส์จากการปฏิบัติอย่างสูงสุด
ส่วนผลของการรักษาอุโบสถศีลที่นำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตนั้น อุบาสกอุบาสิกาชาวบ้านโนนเมืองมีสุขภาพทางกายที่แข็งแรง ช่วยลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องดื่มและการแต่งตัวหยุดการทำงานที่รับผิดชอบไว้ชั่วคราว ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตเป็นการฝึกสติให้รู้เท่าทันความคิด และภาคภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งดีงาม มีกำลังใจในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ครอบครัวมีความสุข เพราะการรักษาอุโบสถศีลเป็นการปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสกาม นอกจากนี้ยังเกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย
ดาวน์โหลด |