บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่อง “ศึกษาคติความเชื่อในประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านอุ่มเม้า ตำบลเมืองทอง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพิธีและประเพณีการกวนข้าวทิพย์ในพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาคติความเชื่อในประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ของชาวบ้านอุ่มเม้า จังหวัดร้อยเอ็ด และเพื่อวิเคราะห์อิทธิพลความเชื่อในประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ที่มีต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านอุ่มเม้า จังหวัดร้อยเอ็ด
ผลการศึกษาพบว่า ความเป็นมาของการกวนข้าวทิพย์เชื่อว่าเกิดจากนางสุชาดากวนข้าวมธุปายาสหรือข้าวทิพย์ถวายพระพุทธเจ้า ซึ่งนางสุชาดานับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน จึงกล่าวได้ว่าเราได้รับอิทธิพลการปรุงข้าวทิพย์มาจากพราหมณ์ ประเพณีการกวนข้าวทิพย์ในประเทศไทยมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เชื่อกันว่าข้าวทิพย์เป็นอาหารพิเศษเหมือนกับอาหารทิพย์ของเทวดา เมื่อได้รับประทานแล้วจะทำให้สุขภาพแข็งแรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อได้ถวายข้าวทิพย์แก่พระสงฆ์จึงมีอานิสงส์มาก เพราะเป็นทานพิเศษ มีความตั้งใจมาก และตระเตรียมมาก
ประวัติความเป็นมาของประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ของบ้านอุ่มเม้ามีการสันนิษฐานไว้แตกต่างกัน ประเพณีที่ทำกันอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ การเตรียมงานคือ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบอย่างน้อย ๑๐ วัน ประชุมกันเตรียมจัดงาน แต่งตั้งคนทำงาน ช่วยกันเตรียมสถานที่กวนข้าวทิพย์ แล้วช่วยกันเตรียมสถานที่คือจัดปะรำพิธีกวนข้าวทิพย์ และสถานที่เจริญพระพุทธมนต์ ส่วนประกอบข้าวทิพย์ ได้แก่ มะพร้าว ใบเตย น้ำนมข้าว เนย เผือก เป็นต้น สำหรับอุปกรณ์ในการกวน ได้แก่ เชื้อเพลิง เตา กระทะ ไม้กวน ตะแกรง เครื่องบด, ก่อนกวนมีการรับศีล ๘ ก่อน ขณะพระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา สาวพรหมจารี อายุ ๘-๑๒ ปี สวมชุดขาว ซึ่งสมมติว่าเป็นนางฟ้า กวนไปเรื่อย ๆ หลังจากสาวพรหมจารีกวนแล้วชาวบ้านทั่วไปก็ช่วยกวนต่อจนข้าวและเครื่องปรุงทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้เวลากวนประมาณ ๑๕-๑๖ ชั่วโมง
อิทธิพลความเชื่อในพิธีกวนข้าวทิพย์ต่อชาวบ้านอุ่มเม้าคือ ด้านเศรษฐกิจ พบว่า การทำบุญข้าวทิพย์ทำให้มีเงินหมุนเวียน เพราะมีการจับจ่ายใช้สอยกัน ผู้ทำบุญโดยมากไม่คิดว่าประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์เป็นการสิ้นเปลือง เพราะแต่ละครอบครัวไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งของให้ครบทุกอย่าง สามารถบริจาคได้ตามกำลังศรัทธาและกำลังทรัพย์ของตน และทำปีละครั้ง ไม่ได้ทำบ่อย ที่สำคัญเป็นการทำด้วยความสมัครใจ ต้องการได้บุญ และมีความสุขใจกับการได้ทำบุญ ด้านสังคม พบว่า ประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ทำให้มีความสามัคคีกัน ชาวบ้านได้เสียสละเวลาทำงาน กำลังทรัพย์และกำลังกาย มาร่วมกันทำบุญประเพณี เป็นการได้สงเคราะห์ผู้อื่นในทางอ้อม ได้อนุรักษ์ประเพณีของชุมชน ได้ปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามแก่ลูกหลาน ทำให้คนลดความเห็นแก่ตัวได้ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ได้สั่งสมคุณงามความดี ด้านประเพณี พบว่า ประเพณีบุญกวนข้าวทิพย์ทำให้เกิดความเสียสละและมีความสามัคคีกัน ควรประชาสัมพันธ์ให้รู้จักทั้งความเป็นมาและคุณค่าของประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ และควรได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ทำเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ควรได้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มาศึกษาเรียนรู้ประเพณีที่ดีงาม เพราะเป็นแหล่งเรียนที่ดี ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับสังคม ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านวัฒนธรรม พบว่า ประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ของชาวบ้านอุ่มเม้าไม่ให้มีการดื่มของมึนเมาภายในวัด เป็นการทำบุญจริง ๆ ด้านศาสนา พบว่า บุญกวนข้าวทิพย์ของบ้านอุ่มเม้าไม่มีการฆ่าสัตว์ ดังนั้น จึงเป็นการไม่ได้ทำบาปแต่อย่างใด ประเพณีทำบุญกวนข้าวทิพย์ทำให้ได้รับความสุขใจ ทำให้คนรู้จักเห็นอกเห็นใจกัน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันกัน มีความอดทนและความสามัคคี ด้านวิถีชีวิต พบว่า บุญกวนข้าวทิพย์สามารถเปลี่ยนความขัดแย้งกันให้เกิดความสามัคคีกันได้ ดังนั้น ประเพณีที่ดีงามจึงช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทำให้เกิดความรักกันฉันพี่น้องและเป็นญาติธรรมกัน ได้เสียสละประโยชน์ตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ด้านคุณค่า พบว่า บุญกวนข้าวทิพย์ทำให้คนรู้จักทำบุญและอานิสงส์การทำบุญ ทำให้ผู้ทำมีความสุขใจ มีความเสียสละและอดทน ผู้ใหญ่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกหลาน คนในชุมชนมีความรักสามัคคีกัน ได้ค้ำจุนพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนและสังคมอื่น ๆ เมื่อคนดีก็ทำให้เป็นสังคมมีความสงบสุข
ดาวน์โหลด
|