หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » จ่าสิบโทอัครนันท์ เจริญกิจจารัตน์
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๓ ครั้ง
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔ จังหวัดนครสวรรค์
ชื่อผู้วิจัย : จ่าสิบโทอัครนันท์ เจริญกิจจารัตน์ ข้อมูลวันที่ : ๑๑/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม พธ.บ., M.A. Ph.D. (Pol.Sc)
  พระโสภณวราภรณ์, ดร.พธ.บ.,M.A.,Ph.D.
  ผศ.อานนท์ เมธีวรฉัตรพธ.บ.,ศษ.บ.,กศ.ม.(การบริหารการศึกษา)
วันสำเร็จการศึกษา : พ.ศ.๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

การศึกษาเรื่อง  การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์ (๑)เพื่อศึกษาระดับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔  ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ และ             (๒)เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของข้าราชการต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์(๓)เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคแนวทางพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔  ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ กับข้าราชการของกองพันทหารช่างที่ ๔  ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง  จำนวน   ๒๓๙  คน  ซึ่งใช้วิธีการสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) และกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ในจำนวนประชากร ๕๒๙ คน ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม (Mixed Methodology Research)   โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ  (Key Informant) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจัดทำขึ้นเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA ) เมื่อพบว่ามีความแตกต่างกันจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่โดยมีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD ) และสรุปข้อมูลปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ตลอดถึงแบบสัมภาษณ์  โดยวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย

ผลการศึกษา  พบว่า

๑. ข้าราชการของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ มีความคิดเห็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด    เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน  พบว่า ข้าราชการของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในระดับ มากที่สุดทุกด้าน

๒. เปรียบเทียบความคิดเห็นของข้าราชการกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์               มีความคิดเห็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔               จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  ได้แก่   อายุ การศึกษา อายุราชการ  ชั้นยศ              และรายได้ต่อเดือน  โดยภาพรวม  พบว่า  ไม่แตกต่างกันทุกตัวแปร  จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย

๓. ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ (๑) ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในการปฏิบัติงาน และการดำเนินชีวิต เนื่องจากการพัฒนาคนที่ดีที่สุด ต้องใช้กระบวนการอบรมกล่อมเกลาทางสังคม หรือที่เรียกว่า “วัฒนธรรมองค์กร” จะเป็นเบ้าหลอมที่ดีที่สุดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด (2)  ผู้บังคับบัญชาควรทำแผนพัฒนาบุคลากรของตนเองให้สอดคล้องกับนโยบาย และยุทธศาสตร์ขององค์กร และต้องดำเนินการให้ครอบคลุมทุกตำแหน่ง ทุกสายงาน ทุกระดับอย่างทั่วถึง โดยใช้กระบวนการสำรวจความจำเป็นในการพัฒนาและฝึกอบรมอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้ข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒนาทรัพยากรที่ตรงตามความต้องการ และจำเป็นต่อองค์กรอย่างแท้จริงซึ่งจะทำให้บุคลากรที่อยู่ในองค์กรอย่างแท้จริงที่จะทำให้บุคลากรที่อยู่ในองค์มีประสิทธิภาพ(3) ควรมีการศึกษาในประเด็นเกี่ยวกับการนำหลักพุทธธรรมมาปรับประยุกต์ใช้จริงในการปฏิบัติงาน หรือการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงประสิทธิภาพของบุคลากรในทุกระดับต่อไป(๔)ควรศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บุคลากรในระดับต่าง ๆ ของกองพันทหารช่างที่ ๔  จังหวัดนครสวรรค์ (๕) ควรศึกษาปัจจัยในการรักษาคนดีไว้ในองค์กร(๖) ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลสำเร็จต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคการจัดการเปลี่ยนแปลง (Change Management)

ดาวน์โหลด 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕