บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของของข้าราชการศาลยุติธรรมในศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๔ (๒) เพื่อศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสาราณียธรรม ๖ ของข้าราชการศาลยุติธรรมในศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๔ (๓) เพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสาราณียธรรม ๖ ของข้าราชการศาลยุติธรรมในศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๔ (๔) เพื่อศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการศาลยุติธรรมในศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค ๔
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยแบบผสม โดยการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือข้าราชการในศาลยุติธรรมสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๔ จำนวน ๒๕๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ใช้ในการวิจัยมีการหาคุณภาพ โดยการหาความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน ๕ ท่าน และมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๒
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าความถี่ (Fequency) ร้อยละ ( Percentge ) ค่าเฉลี่ย () และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t - test) และการวิเคราะห์ค่าแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก ( In-Dept Interview ) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key informant) คือ ผู้อำนวยการระดับสูง หัวหน้าส่วน
ข
หัวหน้ากลุ่มงาน จำนวน ๕ คน วิเคราะห์ข้อมูลการสัมภาษณ์เพื่อหาแนวทางสำหรับพัฒนาการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรม ๖ โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัย พบว่า
๑. ข้าราชการ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ ๖๖.๑ มีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี คิดเป็นร้อยละ ๔๗.๒ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๘ มีการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ ๗๒.๔ มีรายได้ตั้งแต่ ๒๕,๐๐๐ บาทขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๔
๒. ข้าราชการมีการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสาราณียธรรม ๖ ของข้าราชการในศาลสังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๔ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=๔.๑๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยในแต่ละด้านดังนี้ คือ ด้านเมตตากายกรรม (= ๔.๑๒) ด้านเมตตาวจีกรรม (= ๔.๒๙) ด้านเมตตามโนกรรม (= ๔.๕๐) ด้านสาธารณโภคี (= ๔.๐๑) ด้านสีลสามัญญตา (= ๔.๔๗) ด้านทิฏฐิสามัญญตา (= ๓.๙๗)
๓. ข้าราชการที่มี อายุ ตำแหน่ง การศึกษาและรายได้ แตกต่างกันมีการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรม ๖ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนข้าราชการศาลยุติธรรมที่มีเพศแตกต่างกันมีการปฏิบัติงานตามหลักสาราณียธรรมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้
๔. การปฏิบัติงานของข้าราชการศาลยุติธรรมมีการปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน ผู้มาติดต่อราชการและผู้บังคับบัญชานั้น ต้องปฏิบัติภายใต้ประมวลจริยธรรมของข้าราชการศาลยุติธรรม นโยบายของประธานศาลฎีกา และแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม เพื่อการให้บริการที่ดีแก่ผู้อรรถคดีและผู้มาติดต่อราชการให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งประมวลจริยธรรมของข้าราชการศาลยุติธรรมนั้นเปรียบเหมือนสิ่งที่ควบคุมการประพฤติของข้าราชการศาลยุติธรรมให้ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม ให้นำไปสู่ความสำเร็จของการดำรงตนและการปฏิบัติราชการ
ดาวน์โหลด |