บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรามีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ ๑) เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาลของวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา ๒) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพระภิกษุและสามเณรที่อยู่จำพรรษาภายในวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทราเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาล ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ พระภิกษุสามเณรภายในวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน ๑๙๑ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับ และแบบสอบถามปลายเปิดซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเองโดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๖ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลวิจัยพบว่า
๑. วัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลทั้ง ๖ ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = ๓.๓๘) และเมื่อพิจารณารายละเอียดเป็นรายด้านพบว่า ด้านคุณธรรมและด้านความคุ้มค่าอยู่ในระดับมากสำหรับด้านอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน
๒. การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าพระภิกษุสามเณรภายในวัดมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง กลาง ( = ๓.๓๘) และเมื่อพิจารณารายละเอียดเป็นรายด้านพบว่า ด้านคุณธรรมและด้านความคุ้มค่าอยู่ในระดับมากสำหรับด้านอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน
๓. ศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ต่อการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของ วัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ด้านหลักนิติธรรม ผู้บริหารควรวางตัวเป็นกลางและยึดหลักยุติธรรมเป็นที่ตั้งในการบริหารวัด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดผู้บริหารควรปฏิบัติงานด้วยเหตุและผล ควรปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยและคำนึงถึงสิทธิหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรภายในวัด ควรนำหลักการกระจายอำนาจในการปกครองพระภิกษุสามเณรมาใช้ภายในวัด ด้านหลักคุณธรรม ผู้บริหารปฏิบัติควรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทยึดถือประโยชน์ของวัดเป็นสำคัญ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ปฏิบัติต่อพระภิกษุสามเณรภายในวัดโดยเท่าเทียมกัน ด้านหลักความโปร่งใส ทำงานอย่างมีระบบขั้นตอนมีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญพร้อมรับการตรวจสอบอยู่เสมอ การดำเนินงานทุกโครงการควรมีการนำเสนอประชาสัมพันธ์ระเบียบขั้นตอนพร้อมวัตถุประสงค์ของการทำงาน ด้านหลักการมีส่วนร่วม ควรเปิดโอกาสให้พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์งานที่ดีร่วมกัน รับฟังความคิดเห็นของพระภิกษุสามเณรที่มีความเห็นแตกต่าง ๆในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการวัด ด้านหลักความรับผิดชอบ รับผิดชอบและส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตนเองและพระภิกษุสามเณร จัดตั้งขึ้น ควรมีการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรที่มีผลการเรียนดีและประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ด้านหลักความคุ้มค่า มีการจัดการและบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดเมื่อจะดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามหรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ควรคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับ
ดาวน์โหลด |