บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ๒) เพื่อเปรียบเทียบบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ระเบียบวิจัยใช้การวิจัยเชิงปริมาณซึ่งผู้วิจัยใช้แบบสอบถามจากประชาชนในตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการจำนวน ๓๖๖ ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามที่จัดทำขึ้น เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายปิดและปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ (Frequency), ค่าร้อยละ (Percentage), และค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Satndard Deviation) การทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. บทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (=๓.๖๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านการวางแผน อยู่ในระดับมาก (=๓.๘๐) ด้านการจัดการองค์กร อยู่ในระดับมาก (=๓.๖๑) ด้านการวางแผนกำลังคน อยู่ในระดับมาก (=๓.๕๐) ด้านการประสานงาน อยู่ในระดับมาก (=๓.๙๓) ด้านการควบคุมประเมินผล อยู่ในระดับมาก (=๓.๕๕)
๒. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จำแนกตามเพศ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง และรายได้ต่อเดือน พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนจำแนกตามอายุ และอาชีพ พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อบทบาทด้านการปกครองของผู้ใหญ่บ้าน แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงปฏิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้
๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อบทบาทด้านการปกครองหมู่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ใหญ่บ้านควรเพิ่มบทบาทด้านการให้การศึกษาผู้ใหญ่ที่เกี่ยวกับการใช้วิถีชีวิตแบบพึ่งพาตนเองและแบบร่วมกลุ่มสร้างเครือข่ายขึ้นในชุมชนจัดตั้งกองทุนหรือเสริมสร้างการหารายได้ให้กับลูกบ้านในชุมชนของตัวเองการและควรมีแผนนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาฝีมือความรู้ความสามารถของลูกบ้านในแต่ละด้านและส่งเสริมความรู้เรื่องพฤติกรรมเชิงคุณธรรมจริยธรรม ควบคู่ให้กับลูกบ้านตัวเอง ควรมีนโยบายส่งเสริมให้มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความรู้และงานอาชีพต่างๆ ให้เกิดขึ้นในชุมชนหรือหมู่บ้านที่ตนเองปกครองดูแลอยู่เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับประชาชนชาวบ้านลูกบ้านแต่ละคนที่มีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกันในแต่ละด้านและผลักดันส่งเสริมพัฒนาสนับสนุนให้เป็นแผนนโยบายส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีรายได้พอใช้จ่ายภายในครัวเรือนของตัวเองอย่างพอเพียงต่อความต้องการ อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง ควรอุทิศตนเองเพื่อการรับใช้ประชาชนของตนเองในพื้นที่อย่างเต็มที่และอย่างสุดความสามารถของตัวเอง ควรอุทิศตนเองทำงานในภาระหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายและสมกับได้รับความไว้ว่างใจมาจากลูกบ้านให้มาเป็นผู้นำชุนของตัวเองและต้องทำตัวให้เป็นผู้นำชุมชนผู้นำท้องถิ่นที่สามารถเป็นที่พึ่งพาให้กับประชาชนหรือลูกบ้านได้และต้องคอย เป็นผู้นำพาทางด้านจิตวิญญาณ นำหลักธรรมคำสอนในศาสนาไปพัฒนาจิตใจตนเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีต่อลูกบ้านให้ลูกบ้านเกิดความศรัทธาอย่างเป็นผู้ตามที่ดีให้มากที่สุด
ดาวน์โหลด |