บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทัศนะของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ๒) เพื่อเปรียบเทียบการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาแนวทางและข้อเสนอแนะการการเผยแผ่พระพุทธสานาของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ระเบียบวิจัยใช้การวิจัยเชิงปริมาณซึ่งผู้วิจัยใช้แบบสอบถามกับพระสังฆาธิการซึ่งสังกัดเขตการปกครองคณะสงฆ์อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำการศึกษากับกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๖๑ รูป โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามที่จัดทำขึ้น เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายปิดและปลายเปิด ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ โดยหาความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และทดสอบสมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าเอฟ (F-test) ) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of variance) และในกรณีที่พบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย จึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญที่น้อยที่สุด (Scheffe’)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า พระสังฆาธิการมีความคิดเห็นต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= ๓.๖๒ ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผู้ส่งสาร พระสังฆาธิการมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก (= ๓.๘๒ ) ด้านสาร พระสังฆาธิการมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ด้านสื่อ พระสังฆาธิการมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง (=๓.๑๖ ) ด้านผู้รับสาร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= ๓.๖๖ )
๒. การเปรียบเทียบการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า พระสังฆาธิการที่มีอายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงปฏิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อจำแนกตามประสบการณ์ทำงาน พบว่า พระสังฆาธิการมีประสบการณ์ทำงานต่างกัน มีความคิดเห็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้
๓. ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ พระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการวางแผนนโยบายในการทำงานและควรสร้างความน่าเลื่อมใสในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่เสมอ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความเคารพศรัทธาต่อพระภิกษุและพระพุทธศาสนาอยู่ตลอด และพระสังฆาธิการเองควรมีความประพฤติดี ในการเทศน์บรรยายควรรู้จักการเลือกใช้หัวข้อธรรมที่เหมาะสมกับผู้ฟัง และควรเรียนรู้ในการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประกอบการเทศน์อยู่ตลอดในทันกับเหตุการณ์และสถานการณ์ปัจจุบัน และควรรู้จักที่จะเรียนรู้และศึกษาผู้ฟังก่อนรับนิมนต์เทศน์ในทุก ๆ ครั้ง พระสังฆาธิการอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ควรที่เรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติมให้มีความรอบรู้ในเนื้อหาที่สอนและเทศน์อยู่ตลอดและควรสร้างส่งเสริมเรียนรู้ยกวิทยาฐานะตัวเองให้มีวุฒิการศึกษาที่เหมาะสมกับบทบาทและควรที่จะสร้างส่งเสริมพลักดันให้ตนเองมีภูมิความรู้ที่น่าเชื่อถือ และรู้จักการเลือกใช้หัวข้อธรรมที่ฟังแล้วจรรโลงใจอยู่ตลอด และควรมีการเรียนรู้ที่จะเลือกใช้สื่อสมัยใหม่ประกอบการเทศน์อยู่ตลอดและควรที่จะรู้จักการเลือกใช้หัวข้อธรรมที่เหมาะสมกับวัยผู้ฟังอยู่เสมอ
ดาวน์โหลด |