บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ (๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่นอำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด (๒) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ตามความคิดเห็นของประชาชน โดยจำแนกปัจจัยส่วนบุคคล (๓) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ดการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม โดยการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน ๓๖๗ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และ ร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-test )และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA ) และสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ (Key Informants ) จำนวน ๕ คน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา(Content Analysis) อธิบายในรูปของความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ๑๘๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๑.๕ มีอายุตั้งแต่ ๑๘-๓๐ ปี จำนวน ๑๑๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๒ มีระดับการศึกษาตั่งแต่ ประถมศึกษา ๘๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๖ มีอาชีพรับจ้าง จำนวน ๑๑๖ คน มีรายได้ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๖
๒. ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม อยู่ในระดับมาก( =๓.๖๑) เมื่อพิจารณาในรายด้าน พบว่าประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้านโดยเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ คือ ด้านเมตตากายกรรม, เมตตาวจีกรรม, เมตตามโนกรรม, สีลสามัญญตา, ทิฏฐิสามัญญตา, และสาธารณโภคี ตามลำดับ
๓. ประชาชนที่มีอาชีพ ที่ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่น แตกต่างกัน เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนประชาชนที่มี เพศ,อายุ,ระดับการศึกษา, และรายได้ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่นไม่ต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๔. มีแนวทางการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด คือ
(๑) ด้านเมตตากายกรรม สนับสนุนให้อยู่ร่วมกันแบบครอบครัว และมีการให้บริการประชาชนเหมือนกับการให้ความช่วยเหลือญาติ พี่ น้อง หรือคนในครอบครัวของตน
(๒) ด้านเมตตาวจีกรรม มุ่งเน้นการให้บริการที่เท่าเทียมกัน พูดจาไพเราะอ่อนหวาน
(๓) ด้านเมตตามโนกรรม มุ่งคิดว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร คิดต่อกันด้วยเมตตา คิดทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กัน มองในแง่ดี
(๔) ด้านสาธารณโภคี ยึดหลักที่ว่า “ได้มาแบ่งกันกินแบ่งกันใช้” โดยชอบธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สงเคราะห์แก่กัน จัดสรรสวัสดิการ ตามความเหมาะสม
(๕) ด้านสีลสามัญญตา บุคลากร รักษาระเบียบวินัยของส่วนรวม ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจหรือเสื่อมเสียแก่หมู่คณะ
(๖) ด้านทิฏฐิสามัญญตา ความเคารพรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีความเห็นชอบร่วมกันตกลงกันได้ในหลักการสำคัญ
ดาวน์โหลด
|