บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑.เพื่อศึกษาแนวคิดจริยธรรมนักการเมืองทั่วไป ๒.เพื่อศึกษาจริยธรรมการเมืองแนวพุทธปรัชญาเถรวาท และ ๓.เพื่อวิเคราะห์ปัญหาจริยธรรมนักการเมืองในทัศนะพุทธปรัชญาเถรวาท
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ เรื่องแนวคิดจริยธรรมการเมืองทั่วไป พบว่า ปัญหาโครงสร้างการเมืองทั้งในระดับพรรค สังคม มีผลทำให้นักการเมืองขาดความรู้(วิชชา)ขาดสำนึกทางสังคม(จรณะ,จรรยาบรรณหรือความรับผิดชอบ) ขาดภาวะผู้นำ(วิชชา+จรณะ) นำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน การคอรัปชั่น ขัดแย้ง ก่อปัญหาวิกฤตจริยธรรมจนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในทางการเมืองและสังคม ซึ่งปัญหาทุกประเด็นล้วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน
ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ จริยธรรมนักการเมืองตามแนวพุทธปรัชญาเถรวาทพบว่า จริยธรรมนักการเมืองแนวพุทธซึ่งเป็นตัวแทนสาธารณชนที่อาสาไปจัดสรรปันส่วนรักษาผลประโยชน์และกระจายผลประโยชน์แก่คนในสังคมอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม จริยธรรมจึงเป็นคุณสมบัติของนักการเมืองเพื่อไม่ให้เกิดความลำเอียงหรือปราศจากมีอคติ ในแง่หนึ่งนักการเมืองที่มีจริยธรรมจะต้องทำงานอาสาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและเห็นแก่ตัวน้อยที่สุด ซึ่งตามกรอบแนวคิดจริยธรรมนักการเมืองแนวพุทธปรัชญาเถรวาทจะต้องมีเบญจศีล และเบญจธรรม เป็นต้น
ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อที่ ๓ วิเคราะห์ปัญหาจริยธรรมนักการเมืองในพุทธปรัชญาเถรวาท พบว่าแนวทางการพัฒนานักการเมืองให้มีคุณภาพตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาท จะต้องเป็นคนดีและมีคุณภาพ ปฏิบัติตนหรือวางตนอยู่ใน ความซื่อสัตย์ สุจริต ทั้งวาจา ใจ และการกระทำ เที่ยงธรรม เป็นกลาง มีสัจจะ รักษาคำพูด พูดจริง ทำจริง และมีความจริงใจ รับผิดชอบต่อตนเอง และหน้าทีการงานเพื่อส่วนรวม เสียสละประโยชน์ตนเพื่อส่วนรวม เคารพและปฏิบัติตามมติส่วนรวม เคารพที่ประชุม และรักษาความสงบของที่ประชุม หลีกเลี่ยงอบายมุขและหมั่นประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงาม
ดาวน์โหลด |