บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะผู้นำของครูและผู้บริหารวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว เปรียบเทียบภาวะผู้นำของครูและผู้บริหารวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทร์ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และศึกษาแนวทางการพัฒนาครูและผู้บริหารวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว
กลุ่มตัวอย่างได้แก่ครูและผู้บริหารจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๘๕รูป/ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ(One-Way ANOVA) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์สถิติสำเร็จรูป
ผลการศึกษาพบว่า
ผลการการศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารและครูที่มีต่อภาวะผู้นำของครูและผู้บริหารวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทร์ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ภาวะผู้นำด้านการมีวิสัยทัศน์ที่ดี ภาวะผู้นำด้านการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับชุมชน ภาวะผู้นำด้านความสามารถในจูงใจ ภาวะผู้นำด้านการเป็นแบบอย่างที่ดี ภาวะผู้นำด้านความฉลาดและมีไหวพริบ ภาวะผู้นำด้านหลักในการปกครองตน
ผลการเปรียบเทียบข้อมูลการศึกษาภาวะผู้นำของครูและผู้บริหารวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อนครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำแนกตามเพศ อายุ วุฒิการศึกษา ประการณ์การทำงาน สาขาที่สอน พบว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ข้อเสนอแนะ ๑) ด้านความสามารถในการจูงใจ ควรมีทักษะและความสามารถในการจูง ใจให้บุคลากรสามารถทำงานกับองค์กรด้วยความจงรักภักดีและทุ่มเทการทำงานด้วยจิตใจ มิใช่การ บังคับ ๒) การมีวิสัยทัศน์ที่ดีเป็นสิ่งดี แต่กระบวนการก้าวไปสูวิสัยทัศน์นั้น ควรสอดคลองกับบุคคล สถานการณ์การเงิน ๓) การเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นสิ่งถูกต้อง ตัวอย่างดีนั้นมิใช่เพียง พูดดี แต่งตัวดี ๔) การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับชุมชนยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ๕) ความฉลาดและ มีไหวพริบ การเป็นผู้นำ ต้องมีความฉลาดและมีไหวพริบ ๖) หลักในการปกครองตนจะให้ทุกคนมี สิทธิเท่าเทียมกัน
ดาวน์โหลด |