หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระจอมหาญ จนฺทิมาวํโส(จำคำ)
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๕ ครั้ง
ประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุงรัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์
ชื่อผู้วิจัย : พระจอมหาญ จนฺทิมาวํโส(จำคำ) ข้อมูลวันที่ : ๐๖/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูปลัดสุรัฐ สิริปุญฺโ, ดร., พธ.บ., M.A., Ph.D. (Soc.)
  พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโ, ผศ., พธ.บ., ศศ.ม., รป.ม.
  ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม, พธ.บ., M.A., Ph.D. (Pol.Sc.)
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ของคณะสงฆ์เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ ตามความคิดเห็นของพระสงฆ์ ๒) เพื่อเปรียบ เทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอ แนะ ประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ที่มีต่อคณะสงฆ์เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ โดยดำเนินการวิจัยตามวิธีวิจัยแบบผสม (Mixed Method Research) โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Quality Research) ทีเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In Depth Interview) จากพระสงฆ์ จำนวน ๓๔๒ รูป โดยวิธีการแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) ใช้แบบสอบถามที่จัดทำขึ้นเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายปิดและปลายเปิด ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์เพื่อหาค่าความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบสมมติฐานค่าที โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way analysis of Variance) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕

ผลการวิจัยพบว่า

. ระดับความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการบริการกิจการคณะสงฆ์เมืองเชียงตุง พบว่าประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ของคณะสงฆ์เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  = ๓.๕๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับปานกลางสองด้านคือ ด้านการปกครองและ ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ส่วนด้านอื่นๆ ที่เหลือคือ ด้านการศาสนศึกษา ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และด้านการสาธารณูปการ อยู่ในระดับมาก

. การวิเคราะห์เปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ ต่อประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ พบว่าสถานภาพ อายุ พรรษา การศึกษาสายสามัญ การศึกษานักธรรม และตำแหน่งต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้

. ปัญหาส่วนใหญ่ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง คือ มีปัญหาเกี่ยวกับการ บริหารการวางแผน ไม่มีการวางแผนไม่มีการจัดการใช้บุคลากรให้ถูกที่ การยกย่องเชิดชูเกียรติครูสอนน้อย ไม่มีการอบรมผู้บริหารเพื่อให้สมบูรณ์ตาม นโยบาย รวมถึง การจัดการ ความสัมพันธ์ระวางกลุ่มงาน การสั่งงาน การจัดทรัพยากร และการประเมินผลงาน

จากผลสังเคราะห์ข้อมูลสัมภาษณ์เกี่ยวกับการประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ ทำเห็นว่า พระสงฆ์ มีความสนใจในการปกครองของคณะสงฆ์มากขึ้น ส่วนใหญ่อยากจะมาเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เพื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงเจริญรุ่งเรือง แต่ทุนเกี่ยวกับการศาสนศึกษาต้องอาศัยญาติโยม ภายในวัดมีการจะตั้งห้องสมุดและ มีการจัดกิจกรรมอบรมธรรม ความรู้ต่างๆ แก่เด็กและเยาวชน ส่วนใหญ่มีการดูแลซ่อมแซมและปฏิสังขรณ์ถาวร วัตถุภายในวัด และมีการช่วยเหลือให้คำแนะนำ ตามหลักศาสนาแก่บุคคล เพื่อจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นต่อไป

ข้อเสนอแนะในการพัฒนา ประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ เมืองเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพเมียนม่าร์ ด้านการปกครอง ควรจัดให้มีการอบรมเรื่องเกี่ยวข้องกับการปกครองคณะสงฆ์ และกฎระเบียบต่างๆ ด้านการศึกษา การศึกษาต้องมีโอกาสความเท่ากันทุกๆ ที่ และเราควรต้องยกย่องเกียรติครูสอนมากกว่านี้ ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ควรหาผู้สนับสนุนด้านปัจจัย เงินทุน และ บุคลากรจากที่อื่นๆ มาช่วย ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ควรมีกองทุนในการเผยแผ่ธรรม และ อบรมสั่งสอนประชาชนทั่วไป ด้านการสาธารณูปการ ควรมีการเพิ่มที่พักอาศัยให้เพียงพอ และด้านการสาธารณสงเคราะห์ ควรมีการติดต่อประสานงานช่วยเหลือแก่สังคม และอบรมสั่งสอนให้ความรู้ผู้ที่มีปัญหายาเสพติด และอบายมุขต่างๆ

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕