หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาไพทูรย์ จิตฺตทนฺโต (ลุนพันธ์)
 
เข้าชม : ๑๙๙๗๓ ครั้ง
การนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทาง การศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาไพทูรย์ จิตฺตทนฺโต (ลุนพันธ์) ข้อมูลวันที่ : ๐๑/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหามิตร ฐิตปญฺโญ, ดร. ป.ธ.๔ , พธ.บ.(รัฐศาสตร์),พธ.ม.(พระพุทธศาสนา), Ph.D.( Buddhist ).
  ผศ.ดร.สุวิน ทองปั้น, พธ.บ.( ปรัชญา ), M.A.(Phil.), Ph.D.(Phil.)
  .
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

                               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้  ๑) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด  ๒) เพื่อศึกษาระดับการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน ของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด  ๓) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างจำแนกตามเพศอายุและระดับการศึกษา  การนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน ของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด ๔) เพื่อศึกษาแนวทางการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด  ประชากรได้แก่ บุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งสิ้น จำนวน ๑๐๓  รูป/คน มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๔ โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีของ Yamane ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน ๘๒ รูป/คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (t- test แบบ Independent sample) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (F-test แบบ One way ANOVA) และการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’)

                          ผลการวิจัย  พบว่า

                         ปัจจัยส่วนบุคคลของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า  เพศชาย คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๓๒ และเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๖๘ ซึ่งมีอายุระหว่าง ๒๐ - ๓๕ ปี คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๔๙ อายุระหว่าง ๓๖ - ๕๐ ปี คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๕๙ และมีอายุระหว่าง ๕๑ – ๖๕ ปี คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๙๓ และระดับการศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๓๙ ระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๘๘ และปริญญาตรีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๒๐.๗๓

                         ระดับการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง ๖ ด้าน โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ด้านเมตตากายกรรม ด้านเมตตามโนกรรม ด้านเมตตาวจีกรรม ด้านสาธารณโภคีโภคี  ด้านสีลสามัญญตา และ ด้านทิฏฐิสามัญญตา

                         ผลการเปรียบเทียบของการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด จำแนกตามเพศ  โดยภาพรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน

                         ผลการเปรียบเทียบของการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีอายุต่างกัน โดยภาพรวมและรายด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .๐๕ อยู่ ๓ ด้าน คือ ด้านสาธารณโภคี  ด้าน สีลสามัญญตา และด้านทิฏฐิสามัญญตา ส่วนด้านอื่นไม่แตกต่างกันทางสถิติ

                         ผลการเปรียบเทียบของการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษาบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา  ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด มีระดับการศึกษา ต่างกัน โดยภาพรวมและรายด้าน มีการนำหลักสาราณียธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน ไม่แตกต่างกัน

                         ข้อเสนอแนะการนำหลักสาราณียธรรมในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า ผู้บังคับบัญชาควรติดตามดูแลงานอย่างใกล้ชิด ช่วยแนะนำเมื่อพบปัญหา และเพื่อนร่วมงานควรให้ความเป็นธรรมเสมอภาคกัน มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน มีน้ำใจช่วยเหลือกัน  ฝึกอบรมในเรื่องของกิริยามรรยาทโดยการนำให้เข้ากับหลักธรรมมากที่สุด และฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ จึงจำเป็นต้องรีบดำเนินการพัฒนาโดยเร่งด่วนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด ในระดับมากที่สุดต่อไป

 ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕