วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา พัฒนาการ และโครงสร้างเนื้อหาของคัมภีร์ลลิตวิสตระ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ บุคคล สภาพสังคม ศาสนา และสถานภาพสตรี รวมถึงหลักธรรมวินัยที่ปรากฏในคัมภีร์และอิทธิพลของคัมภีร์ที่มีต่อคัมภีร์ร่วมสมัย โดยแบ่งการศึกษาวิเคราะห์ออกเป็น ๕ บท ดังนี้ บทที่ ๑ บทนำ บทที่ ๒ ความเป็นมาและเค้าโครงเรื่องในคัมภีร์ลลิตวิสตระ เป็นการแนะนำคัมภีร์ลลิตวิสตระ โครงสร้างของเนื้อหาสาระพร้อมใจความสำคัญ แหล่งข้อมูล รสแห่งวรรณคดี และอิทธิพลต่อวรรณกรรมร่วมสมัย บทที่ ๓ แนวคิดสำคัญ บุคคล เหตุการณ์ ที่ปรากฏในคัมภีร์ลลิตวิสตระ โดยแบ่งเป็น ๓ ส่วนคือ ส่วนแรกกล่าวถึงแนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ ส่วนที่ ๒ กล่าวถึงแนวคิดเรื่องพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนที่ ๓ กล่าวถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง สภาพสังคมโดยเฉพาะสถานภาพสตรีในยุคนั้น และการศาสนาในชมพูทวีป ทั้งสภาพอินเดียยุคก่อนพุทธกาล ศาสนายุคก่อนพุทธกาลและยุคพุทธกาล บทที่ ๔ หลักธรรมสำคัญที่ปรากฏในคัมภีร์ลลิตวิสตระ อิทธิพลของคัมภีร์ลลิตวิสตระโดยเฉพาะแนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ อิทธิพลด้านการปกครองและอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมและประติมากรรม บทที่ ๕ สรุป วิจารณ์ และข้อเสนอแนะ ผลการศึกษาพบว่า คัมภีร์ลลิตวิสตระประพันธ์ขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๕-๖ โดยมีคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทเป็นแหล่งข้อมูล เชื่อว่าผู้ประพันธ์เคยเป็นนักปราชญ์ของนิการเถรวาทก่อนที่จะแตกนิกายออกเป็นนิกายสรวาสติวาท แต่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทิศทางคำสอนให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่ศาสนาแผ่เข้าไปถึง ข้อค้นพบที่น่าสนใจมี ๔ เรื่องคือ (๑) สถานะและบทบาทของพระโพธิสัตว์มีลักษณะแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน พระโพธิสัตว์มีสถานะเป็นมนุษย์สมบูรณ์เหนือมนุษย์ เป็นเทพและเป็นผู้ปลดเปลื้องทุกข์ของสัตว์โลกไปในขณะเดียวกัน (๒) พระพุทธเจ้ามีภาวะเป็นทิพย์ มีภูมิปัญญาตรัสรู้ มีพระชนมายุและสภาวะทุกอย่างเป็นอนันตะ (๓) หลักธรรม บุคคล เหตุการณ์ และสภาพแวดล้อมอื่นๆ มีลักษณะผสมกลืนกับสภาพความเป็นพริงในสังคมยุคนั้น มีเชื้อแนวคิดของทุกลัทธิศาสนาผสมอยู่ด้วย คัมภีร์ลลิตวิสตระจึงเป็นเหมือนจุดหลอมรวมหรือสะพานเชื่อมต่อของหลายลัทธิ (๔) อิทธิพลของคัมภีร์ลลิตวิสตระที่มีต่อสังคม วัฒนธรรมในยุคต่อมา โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมและประติมากรรม เช่น พระมหาเจดีโบโรบูดูร์ รูปปั้นพระโพธิสัตว์และเจดีย์ในภาคใต้ของประเทศไทย