บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาจิตรกรรมฝาผนังที่ปรากฏในพระอุโบสถวัดดุสิดาราม (๒) เพื่อศึกษาคติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ
วัดดุสิดาราม (๓)เพื่อวิเคราะห์คติธรรมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ
วัดดุสิดาราม ซึ่งผู้วิจัยจะได้ศึกษาคติธรรมในจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดดุสิดาราม โดยศึกษาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก อรรถกถา ภาพจิตรกรรม คำจารึกในแผ่นศิลาที่ผนังพระอุโบสถและเอกสารด้านโบราณคดี กรมศิลปากร เป็นหลัก
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า ในพระอุโบสถวัดดุสิดารามมีภาพที่งดงามและสามารถถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมของไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นอย่างดี เฉพาะอย่างยิ่งในภาพจิตรกรรมนั้นกล่าวถึงความเป็นมาของภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดดุสิดาราม จิตรกรรมที่กล่าวถึงนี้เป็นจิตรกรรมแบบประเพณี มีลักษณะโครงสร้างการใช้สีเป็นแบบเฉพาะตัว ภาพเขียนภายในพระอุโบสถเป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เขียนภาพแบบทักษิณาวัตร ที่ผนังเหนือประตูหน้าต่างมีภาพเขียนเรื่องสมุทรโฆษชาดกในกรอบไม้สลักปิดทอง ซึ่งสูญหายไปบางส่วน ภาพที่เขียนเป็นเรื่องพุทธประวัติ สันนิษฐานว่าเริ่มจากสันดุสิตเทพบุตร เพราะภาพผนังที่ ๑ และที่ ๒ ลบเลือนหายไป ภาพผนังที่ ๒๒ เป็นภาพไตรภูมิตอนพระมาลัยโปรดสัตว์นรก ภาพเหล่านี้ล้วนสะท้อนเนื้อหาสาระ ยกเอาความดี ความชั่ว ความงามความเชื่อ ซึ่งเปรียบเทียบให้คนทั้งหลายที่ได้ชม เกิดการยอมรับแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติตามต่อไป
ผู้วิจัยได้จัดหลักธรรมที่ปรากฎในภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นออกเป็น ๑๐ หมวด คือ เทวธรรม ๒ มหากุศล ๘ กุศลกรรมบถ ๑๐ โพชฌงค์ ๗ อกุศลกรรมบถ ๑๐ อบายมุข ๔ บารมี ๑๐ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ สังคหวัตถุ ๔ และธรรมของผู้ครองเรือน ๔ หลักธรรมเหล่านี้เป็นได้ทั้งฝ่ายเจริญและฝ่ายเสื่อม ฝ่ายเจริญ มี เทวธรรม โพชฌงค์ เป็นต้น ส่วนฝ่ายเสื่อม มีอบายมุข อกุศลกรรมบถ เป็นต้น ฉะนั้น บัณฑิตผู้มีปัญญา หวังความสุข ความเจริญ พึงเว้นจากทางแห่งความเสื่อม และปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ดาวน์โหลด |