บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ เรื่อง “ศึกษาวิริยะในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา” มีวัตถุประสงค์อยู่ ๒ ประการ คือ เพื่อศึกษาเนื้อหาหลักธรรมวิริยะที่ปรากฏในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท และเพื่อศึกษาวิริยะในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา โดยการศึกษาข้อมูลจากตำราพุทธศาสนาเถรวาท คือ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์อื่น ๆที่เกี่ยวข้อง แล้วรวบรวมข้อมูล เรียบเรียง บรรยายเชิงพรรณนาและตรวจสอบความถูกต้อง โดยอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาภาวนา
ผลการศึกษาพบว่า วิริยะ หมายถึง ความเพียร ๔ อย่าง ตรงกับบาลีว่า ปธาน หรือ เรียก สัมมัปปธาน ๔ คือ สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปใหม่เกิดขึ้น ปหานปธาน เพียรละบาปเก่า ภาวนาปธาน เพียรเจริญให้กุศลเกิดขึ้น และอนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
วิริยะในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา คือ สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ อันได้แก่สัมมัปปธาน ๔ เป็นเครื่องประกอบในการกำหนดสติพิจารณาในกาย เวทนา จิต และธรรม เพื่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งรูปนามโดยความเป็นไตรลักษณ์ เป็นการเห็นด้วยอัตตปัจจักขญาณ คือรู้ประจักษ์ตามความเป็นจริงจากการปฏิบัติของตนเอง การกำหนดสติพิจารณานั้นจะต้องประกอบด้วยองค์แห่งวิปัสสนา คือ ๑)อาตาปี ความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส ๒) สัมปชาโน มีปัญญาหยั่งเห็น ๓)สติมา มีสติ อยู่ทุกขณะแห่งการกำหนดรู้อันจะทำให้กำจัดเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัส
ในการใช้ความเพียรในการปฏิบัติวิปัสสนาต้องเป็นมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง ถ้าเคร่งตึงจนเกินไปก็ทำให้ใจฟุ้งซ่านหาสำเร็จกิจไม่ แต่ถ้าหย่อนเกินไปก็เกียจคร้านง่วงนอน ด้วยเหตุนี้จึงควรปรับอินทรีย์คือ วิริยะกับสมาธิให้เสมอกัน เพราะว่า หากวิริยะมากสมาธิอ่อน ผู้ปฏิบัติจะฟุ้งซ่าน แต่หากสมาธิมากความเพียรอ่อนผู้ปฏิบัติจะเกียจคร้าน ส่วนการปรับศรัทธากับปัญญาต้องให้เสมอกัน เพราะถ้าศรัทธามากปัญญาน้อยผู้ปฏิบัติจะศรัทธาอย่างเดียวไม่มีปัญญาพิจารณาพระไตรลักษณ์ แต่ถ้าปัญญามากศรัทธาอ่อนผู้ปฏิบัติมักจะไม่อยากเชื่อครูอาจารย์ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติจึงต้องใช้วิริยะคือความเพียรที่พอดี ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป และปรับอินทรีย์ให้สมดุลย์กัน จึงจะประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา
ดาวน์โหลด |