บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง “ ศึกษาการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลในปุณโณวาทสูตร ” มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ เพื่อศึกษาหลักธรรมในปุณโณวาทสูตรและ เพื่อศึกษาการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลในปุณโณวาทสูตร โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท คือพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำมาเรียบเรียงบรรยายตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
จากการศึกษาพบว่า ปุณโณวาทสูตรเป็นโอวาทของพระพุทธองค์ที่แสดงแก่ พระปุณณะมีเนื้อหาหลักธรรมสำคัญ คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ อริยสัจ ๔ วิชชา ๓
คำว่า มรรคผลในทางพระพุทธศาสนา หมายถึง โลกุตตรมรรค อันได้แก่ โสดาปัตติมรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตตมรรค ผลในทางพระพุทธศาสนา หมายถึง โลกุตตรผล ได้แก่ โสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล
สำหรับการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลที่ปรากฏในปุณโณวาทสูตรนั้น ท่านพระปุณณะท่านได้เจริญสมถะก่อนที่จะเจริญวิปัสสนา เรียกว่าสมถยานิก จนจิตเข้าถึงฌานได้บรรลุวิชชา ๓ โดยอาศัยสมถะเป็นบาทฐานในการเจริญวิปัสสนาและได้กำหนดอายตนะเป็นอารมณ์ในการเจริญวิปัสสนา ตามหลักสติปัฏฐาน ๔ เพราะอายตนะเป็นภูมิหนึ่งของวิปัสสนา พระพุทธองค์ได้ให้โอวาทพระปุณณะโดยการชี้ให้เห็นอริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคและได้ชี้ให้เห็นคุณและโทษของอายตนะ ในการปฏิบัติต้องมีสติเข้าไประลึกรู้ ถึงผัสสะกับอารมณ์ที่มากระทบจากภายในและภายนอก พิจารณาให้เห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่าไม่สามารถที่จะไปบังคับบัญชาหรือให้คงสภาพได้
อายตนะ ๑๒ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นอายตนะภายใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ เป็นอายตนะภายนอก เป็นองค์ธรรมที่สำคัญ เพื่อให้ปัญญารู้รูป-นามเกิดขึ้น เรียกว่า วิปัสสนาภูมิ เพราะการปฏิบัติวิปัสสนา คือ การรู้รูป-นามโดยความเป็นพระไตรลักษณ์สามารถขจัดอวิชชา ทำภพชาติให้สิ้นสุดได้ โดยกำหนดอายตนะเป็นอารมณ์
ดาวน์โหลด |