บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่อง “ศึกษาอนุปัสสนาในจูฬสัจจกสูตร” มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ เพื่อศึกษาหลักธรรมในจูฬสัจจกสูตร และเพื่อศึกษาแนวทางเจริญอนุปัสสนาในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาเฉพาะในจูฬสัจจกสูตร โดยการศึกษาข้อมูลเนื้อหาหลักธรรมของ จูฬสัจจกสูตร ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท คือพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยการ เรียบเรียงบรรยายตรวจสอบโดยผู้เชียวชาญ บรรยายเชิงพรรณนา
จากการศึกษาพบว่า จูฬสัจจกสูตร เป็นพระสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาธกโวหารกับสัจจกนิครนถ์ ในเรื่องของ อัตตา และอนัตตา เนื่องจากเหตุที่ สัจจกนิครนถ์สำคัญผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นอัตตา พระพุทธองค์ทรงแนะนำสั่งสอนว่า รูป เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่ใช่อัตตา นี้คือหลักไตรลักษณ์ อันเป็นกฎธรรมชาติที่ทรงค้นพบ อันแสดงถึงสามัญลักษณะทั้ง ๓ คือ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา
ในตอนท้ายของพระสูตร สัจจกนิครนถ์ ได้ทูลถามเพื่อขอความรู้ว่า ภิกษุจะเป็นพระอรหันตขีณาสพด้วยเหตุใด ตรัสตอบว่า ด้วยการไม่ยึดถือขันธ์ ๕ ว่า เป็นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา นั้นก็คือหลักปฏิบัติวิปัสสนา ซึ่งอยู่ในขั้นการพิจารณาของอนุปัสสนา คือการพิจารณา กิริยา อาการ โดยเป็นการตามดู ตามรู้อยู่เนือง ๆ มีขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ของวิปัสสนา เป็นภาวนามยปัญญา คือ การเจริญสติ สมาธิ และเจริญปัญญา ให้เห็นว่าขันธ์ ๕ ตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ ขันธ์ ๕ และธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่ใช่อัตตา ซึ่งถือว่าเป็นหลักสำคัญที่ทำให้สภาวะอนุปัสสนาเกิดใน หลักปฏิบัติที่กล่าวนั้นก็คือหลักสติปัฏฐาน ๔ โดย สติตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ของวิปัสสนา คือ รูปนาม ที่ปรากฏในฐานทั้ง ๔ คือ กาย เวทนา จิต และธรรม เป็นฐานในการเจริญสติ มี ๔ หมวดคือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติที่เข้าไปตั้งมั่นใน รูป-นาม โดยพิจารณาเห็นกาย เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติที่เข้าไปตั้งมั่นใน รูป-นาม โดยพิจารณาเวทนา จิตตานุปัสนาสติปัฏฐาน สติที่เข้าไปตั้งมั่นใน รูป-นาม โดยพิจารณาอาการของจิต ธรรมมานุปัสสนา สติปัฏฐาน สติที่เข้าไปตั้งมั่นใน รูป-นาม โดยพิจารณาหมวดธรรม ทั้งหมดให้เป็นไปในอาการ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา เกิดสมาธิและปัญญาเกิดความเบื่อหน่ายละอุปาทานขันธ์ ดับทุกข์ได้โดยสิ้นเชิง
ดาวน์โหลด |